เจ้าหน้าที่สหรัฐรายหนึ่งเปิดเผยในวันพุธ (24 เม.ย.) ว่า สหรัฐได้ส่งมอบขีปนาวุธพิสัยไกลไปยังยูเครนอย่างลับ ๆ เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อใช้ต่อสู้กับรัสเซีย และตอนนี้ยูเครนได้ใช้ไป 2 ครั้งแล้ว
เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวระบุว่า ขีปนาวุธดังกล่าวรวมอยู่ในชุดความช่วยเหลือทางการทหารที่มอบให้กับยูเครนมูลค่า 300 ล้านดอลลาร์ที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ให้การรับรองไปเมื่อวันที่ 12 มี.ค. โดยไม่ได้เปิดเผยว่ามีการจัดส่งขีปนาวุธไปแล้วกี่ลูก
นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ ได้ยืนยันในการแถลงข่าวว่า ขีปนาวุธ “จำนวนหนึ่ง” ได้ถูกจัดส่งไปยังยูเครนแล้ว พร้อมระบุว่า “เราจะส่งไปเพิ่มอีก”
นายซัลลิแวนกล่าวว่า ยูเครนมีความตั้งใจที่จะใช้อาวุธเหล่านี้ภายในยูเครนเท่านั้น ไม่ใช่ในรัสเซีย และเผยว่า ขีปนาวุธบางลูกรวมอยู่ในชุดช่วยเหลือด้านอาวุธยุทโธปกรณ์สำหรับยูเครนมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ที่ปธน.ไบเดนเพิ่งให้การอนุมัติเมื่อวานนี้ (24 เม.ย.) ด้วย
เจ้าหน้าที่ระบุว่า ขีปนาวุธเหล่านี้ถูกนำไปใช้เป็นครั้งแรกในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 17 เม.ย. โดยยิงใส่ลานบินแห่งหนึ่งของรัสเซียในไครเมีย ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากแนวหน้าของยูเครนราว 165 กิโลเมตร และได้ใช้เป็นครั้งที่ 2 ในชั่วข้ามคืนกับกองกำลังรัสเซียทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การพิจารณาว่าจะจัดส่งระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธีของกองทัพบก (ATACMS) ที่มีระยะหวังผลถึง 300 กม. หรือไม่นั้น เป็นประเด็นที่คณะบริหารของปธน.ไบเดนถกเถียงกันมานานหลายเดือน โดยในเบื้องต้นทำเนียบขาวได้คัดค้านการส่งมอบขีปนาวุธพิสัยไกลดังกล่าว เพราะกังวลว่า การสูญเสียขีปนาวุธคลังแสงของสหรัฐอาจส่งผลกระทบต่อความพร้อมทางการทหารของประเทศ นอกจากนี้ ยังมีความกังวลว่ายูเครนจะใช้โจมตีเป้าหมายที่อยู่ลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซียด้วย
ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์