สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การหารือเรื่องเพดานหนี้สหรัฐระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน และนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ซึ่งเดิมจะเกิดขึ้นในวันศุกร์นี้ (12 พ.ค.) นั้น ขณะนี้ได้ถูกเลื่อนออกไปเป็นสัปดาห์หน้าแล้ว
แหล่งข่าววงในระบุว่า การเลื่อนหารือเรื่องดังกล่าวบ่งชี้ถึงความคืบหน้าในการหารือในระดับเจ้าหน้าที่ในเรื่องของการปฏิรูปการออกใบอนุญาตด้านพลังงานและเรื่องงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาล โดยปธน.ไบเดนวางแผนที่จะพบกับนายแมคคาร์ธีและผู้นำสภาคองเกรสคนอื่น ๆ ในสัปดาห์หน้า แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะยังไม่ได้กำหนดวันที่ที่แน่นอนก็ตาม
ด้านนายแมคคาร์ธีกล่าวกับสื่อมวลชนว่า คณะผู้นำเห็นพ้องกันว่ามันจะเป็นประโยชน์สำหรับเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการหารือกันต่อไป ในทำนองเดียวกัน นายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภากล่าวว่า เขาเชื่อว่าการเจรจา “กำลังดำเนินไป”
นางลูอิซา เทอร์เรล ผู้ประสานงานรัฐสภาของทำเนียบขาวพบปะกับนายแดน เมเยอร์ หัวหน้าบุคลากรของนายแมคคาร์ธี และผู้ช่วยคนอื่น ๆ เป็นการส่วนตัวเป็นเวลา 2 ชั่วโมงเมื่อบ่ายวานนี้ (11 พ.ค.) โดยแม้ทั้งสองฝ่ายจะอ้างกับสาธารณชนว่ามีความคืบหน้าในการหารือส่วนตัวครั้งนี้ แต่นายแมคคาร์ธีกลับออกมาวิพากษ์วิจารณ์พรรคเดโมแครตอย่างรุนแรง
“ประธานาธิบดีไบเดนและวุฒิสมาชิกชูเมอร์ยังติดอยู่กับคำว่า “ไม่” พวกเขาไม่มีแผน ไม่มีข้อเสนอการประหยัดค่าใช้จ่าย และไม่มีความเข้าใจอะไรเลย เห็นได้ชัดว่าประธานาธิบดีไบเดนไม่ต้องการเจรจา เขาอยากให้มีการผิดนัดชำระหนี้” นายแมคคาร์ธีกล่าวกับสื่อมวลชนหลังมีรายงานข่าวเลื่อนการหารือกับปธน.ไบเดน
นายแมคคาร์ธีกล่าวว่าสาเหตุที่เลื่อนการหารือครั้งนี้นั้นเนื่องจากหนึ่งในคณะผู้นำต้องไปงานศพในวันนี้ “ประกอบกับการที่ทำเนียบขาวขาดความคืบหน้าและความจริงจัง” อย่างไรก็ตาม นายแมคคาร์ธีชี้แจงว่าการเลื่อนครั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าการเจรจาล้มเหลว
อนึ่ง กระทรวงการคลังสหรัฐเตือนว่า หากไม่มีการขยายเพดานหนี้ สหรัฐอาจผิดนัดชำระหนี้ภายในวันที่ 1 มิ.ย.นี้
ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์
