ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (22 พ.ค.) หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่ากรรมการเฟดได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายใหญ่ของสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,671.04 จุด ลดลง 201.95 จุด หรือ -0.51%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,307.01 จุด ลดลง 14.40 จุด หรือ -0.27% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,801.54 จุด ลดลง 31.08 จุด หรือ -0.18%
ดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีเคลื่อนไหวไร้ทิศทางเกือบตลอดทั้งวัน ก่อนที่จะปรับตัวลงหลังจากเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินประจำวันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค. โดยระบุว่า กรรมการเฟดได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและไม่มั่นใจว่าเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงมากพอที่จะทำให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้หรือไม่
กรรมการเฟดมองว่า แม้เงินเฟ้อของสหรัฐชะลอตัวลงในปีที่แล้ว แต่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อได้ปรับตัวลงสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% โดยเฉพาะข้อมูลที่มีการรายงานครั้งหลังสุดซึ่งแสดงให้เห็นว่าเงินเฟ้อที่เกิดจากราคาอาหารและการบริการปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ รายงานการประชุมยังระบุว่า กรรมการเฟดได้หารือกันเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหากเงินเฟ้อไม่ได้ชะลอตัวลงต่อเนื่องจนถึงเป้าหมายที่ระดับ 2%
รายงานดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่าเฟดอาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานขึ้น โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 59% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปีนี้อย่างน้อย 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย. ซึ่งลดลงจากระดับ 65.7% ในการสำรวจวันก่อนหน้า
หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มสาธารณูปโภค ร่วงลง 1.83% และ 1.18% ตามลำดับ ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มสุขภาพและกลุ่มอุตสาหกรรม ปรับตัวขึ้น 0.20% และ 0.15% ตามลำดับ
นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ของบริษัทอินวิเดียซึ่งจะมีการเปิดเผยหลังตลาดปิดทำการ เพื่อประเมินว่าผลประกอบการของอินวิเดียจะเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์หรือไม่ และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI จะสามารถรักษาแรงบวกต่อไปได้หรือไม่
หุ้นอินวิเดียปิดตลาดปรับตัวลง 0.46% ก่อนที่บริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการ อย่างไรก็ดี หุ้นอินวิเดียพุ่งขึ้นราว 90% ในปี 2567 หลังจากทะยานขึ้นเกือบ 240% ในปี 2566
หุ้นทาร์เก็ต ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 8.03% หลังบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 1/2567 อยู่ที่ 2.03 ดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.06 ดอลลาร์
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองลดลง 1.9% สู่ระดับ 4.14 ล้านยูนิตในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.21 ล้านยูนิต โดยยอดขายบ้านมือสองได้รับผลกระทบจากการดีดตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง และราคาบ้านในระดับสูง
ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์