แนวโน้มราคาทอง
Sideways
- ราคาทองปรับตัวลง (-2.68) ดอลลาร์ คิดเป็น (-0.10%)
- ปิดตลาดที่ระดับ 2,655 ดอลลาร์
Gold spot
สูงสุด – 2,662 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,640 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 41,500 บาท
ต่ำสุด – 41,300 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ซึ่งได้รับแรงกดดันจากเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น หลังจากดัชนี PMI ภาคบริการเดือนก.ย. โดย ISM พุ่งขึ้นสู่ระดับ 54.9 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2566 บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจับตาสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ซึ่งอิสราเอลได้โจมตีศูนย์บัญชาการหน่วยข่าวกรองของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในกรุงเบรุตของเลบานอน ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทอง 2.58 ตัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 148,000 ตำแหน่ง จากที่เพิ่มขึ้น 142,000 ตำแหน่ง อัตราการว่างงานเดือนก.ย. ตลาดคาดจะทรงตัวที่ 4.2% และค่าจ้างเฉลี่ยต่อชั่วโมงเดือนก.ย.
วิเคราะห์ราคาทอง
ระยะสั้นราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลง หลังจากสัญญาณทางเทคนิคทั้ง MACD และ Modified Stochastic ของราคาทองคำใน Timeframe Day เกิดเส้นตัดกันลงมา อย่างไรก็ตาม การปรับตัวลงของราคาทองคำไม่มากนัก ทั้งนี้ในช่วงกลางวันนี้ราคาทองคำอาจยังเคลื่อนไหว Sideways
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ : 2,640 และ 2,630 ดอลลาร์
แนวต้าน : 2,670 และ 2,680 ดอลลาร์
ระยะสั้นราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลง หากเก็งกำไรระยะสั้น สามารถเปิดสถานะขายบริเวณ 2,670 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,680 ดอลลาร์ และ Take profit บริเวณ 2,640 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 41,450 และ 41,350 บาท
แนวต้าน : 41,750 และ 41,850 บาท
เงินบาทอ่อนค่ามากสุด 33.19 บาท ซึ่งหนุนราคาทองคำแท่งปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งเงินบาทอ่อนค่าจากดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง แม้ราคาทองคำโลกจะปรับตัวลง แต่การปรับตัวลงไม่มากนัก ทำให้ราคาทองคำแท่งยังคงสดใส และมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นได้ต่อ แนะนำ Let Profit Run