แนวโน้มราคาทอง
ปรับตัวลง
- ราคาทองปรับตัวลง (-2.45) ดอลลาร์ คิดเป็น (-0.09%)
- ปิดตลาดที่ระดับ 2,653 ดอลลาร์
Gold spot
สูงสุด – 2,670 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,632 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 41,700 บาท
ต่ำสุด – 41,700 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำปรับตัวลงในวันศุกร์ จากแรงกดดันเงินดอลลาร์แข็งค่ามากสุดในรอบ 7 สัปดาห์ โดยการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 254,000 ตำแหน่ง แข็งแกร่งกว่าตลาดคาด ซึ่งตอนนี้ตลาดคาดว่าไม่มีโอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนพ.ย. อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ตะวันออกกลางหนุนราคาทองคำ ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทอง 4.32 ตัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
สัปดาห์นี้สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ย. และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย. นอกจากนี้ติดตามการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC
วิเคราะห์ราคาทอง
ยังคงมีสัญญาณการปรับตัวลงของราคาทองคำ จากสัญญาณทางเทคนิคทั้ง MACD และ Modified Stochastic ของราคาทองคำใน Timeframe Day เกิดสัญญาณขาย (Sell Signal) ทำให้คาดว่าราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลงสู่แนวรับ 2,630 ดอลลาร์ และ 2,620 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ : 2,640 และ 2,630 ดอลลาร์
แนวต้าน : 2,660 และ 2,670 ดอลลาร์
คาดว่าราคาทองคำอาจปรับตัวลงระยะสั้น แต่อย่างไรก็ตามอาจปรับตัวลงไม่มากนัก หากเก็งกำไรระยะสั้น สามารถเปิดสถานะขายบริเวณ 2,660 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,670 ดอลลาร์ และ Take profit บริเวณ 2,630 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 41,550 และ 41,450 บาท
แนวต้าน : 41,750 และ 41,850 บาท
ด้วยแนวโน้มค่าเงินบาทมีทิศทางอ่อนค่าต่อเนื่อง คาดว่าเงินบาทจะอ่อนค่าเข้าใกล้ 34 บาทอีกครั้ง ทำให้หนุนราคาทองคำแท่งให้ปรับตัวขึ้น แม้ราคาทองคำโลกจะปรับตัวลง แต่อาจปรับตัวลงไม่มากนัก ในระยะนี้ราคาทองคำแท่งในประเทศจึงมีความน่าสนใจมากกว่าราคาทองคำโลก
ราคาทองคำแท่งจึงคาดว่าอาจมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นได้ต่อ แนะนำ Let Profit Run