แนวโน้มราคาทอง
เกิดแรงเทขาย
- ราคาทองปรับตัวขึ้น +20.23 ดอลลาร์ คิดเป็น +0.75%
- ปิดตลาดที่ระดับ 2,689 ดอลลาร์
Gold spot
สูงสุด – 2,697 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,663 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 44,050 บาท
ต่ำสุด – 44,050 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
สัปดาห์ก่อนราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องทำจุดสูงสุดในรอบเกือบ 1 เดือน ซึ่งธนาคารกลางจีนเข้าซื้อทองคำเดือนธ.ค. ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 และจากกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจจากนโยบายทรัมป์ 2.0 แม้การจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 256,000 ตำแหน่ง สูงกว่าตลาดคาด ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทอง 5.74 ตันในสัปดาห์ก่อน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
สัปดาห์นี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค. และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค. และติดตามการเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟด 12 เขต (Beige Book)
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งเข้าใกล้บริเวณแนวต้าน 2,700 ดอลลาร์ จึงอาจทำให้มีแรงเทขายออกมาบ้าง ซึ่งคาดว่ามีแนวโน้มที่ราคาทองคำจะปรับตัวลงมาที่ระดับ 2,670 ดอลลาร์ หากยืนเหนือบริเวณที่ 2,670 ดอลลาร์ได้ยังถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ : 2,670 และ 2,660 ดอลลาร์
แนวต้าน : 2,700 และ 2,720 ดอลลาร์
สำหรับนักลงทุนที่เปิดสถานะซื้อไว้แล้วให้ ขายทำกำไรบางส่วนบริเวณ 2,700 ดอลลาร์ ทั้งคาดว่าราคาทองคำอาจมีแรงเทขายระยะสั้น และหากเก็งกำไรระยะสั้นสามารถเข้าซื้อบริเวณ 2,670 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,660 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 43,850 และ 43,750 บาท
แนวต้าน : 44,150 และ 44,350 บาท
คาดราคาทองคำแท่งอาจปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากราคาทองคำโลกมีแนวโน้มปรับตัวลง แต่อย่างไรก็ตามการปรับตัวลงมีกรอบจำกัด และยังได้รับปัจจัยหนุนจากค่าเงินบาทอ่อนค่า แนะนำ Wait & see