แนวโน้มราคาทอง
ปรับตัวขึ้น
- ราคาทองปรับตัวขึ้น +47.3 ดอลลาร์ คิดเป็น +1.88%
- ปิดตลาดที่ระดับ 2,558 ดอลลาร์
Gold spot
สูงสุด – 2,560 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,510 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 40,250 บาท
ต่ำสุด – 40,150 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงสู่ All-time high ใหม่ หลังจากเงินเฟ้อ PPI ของสหรัฐเพิ่มขึ้น1.7% เมื่อเทียบรายปี น้อยกว่าตลาดคาด แต่เมื่อเทียบรายเดือนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 0.2% มากกว่าตลาดคาด ทำให้ดอลลาร์อ่อนค่า จากการคาดการณ์ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทองคำ 4.6 ตัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.ของม.มิชิแกน (เบื้องต้น) ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 68.3 จาก 67.9 ในเดือนส.ค.
วิเคราะห์ราคาทอง
มีแรงซื้อเข้ามาอย่างแข็งแกร่ง หลังจากที่เกิดสัญญาณซื้อ (Buy Signal) จาก Modified Stochastic มาสักระยะ และจากสัญญาณของ Modified Stochastic ยังไม่เข้าสู่ภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) แนวโน้มราคาทองคำจึงอาจจะปรับตัวขึ้นได้ต่อ
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ : 2,550 และ 2,530 ดอลลาร์
แนวต้าน : 2,570 และ 2,580 ดอลลาร์
หากเปิด Long position ไว้แนะนำ Let Profits Run หรือเข้าซื้อบริเวณ 2,530 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,520 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 40,300 และ 40,100 บาท
แนวต้าน : 40,500 และ 40,600 บาท
แม้เงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง แต่ด้วยราคาทองคำโลกปรับตัวแรงสู่ All-time high ใหม่เมื่อคืนนี้ จึงทำให้ราคาทองคำแท่งมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นตามราคาทองคำโลก ทั้งนี้ระยะสั้นราคาทองคำแท่งอาจปรับตัวขึ้น แต่อาจยังติดบริเวณแนวต้าน 40,800-41,000 บาท หากมีการเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น ควรขายใกล้บริเวณแนวต้านดังกล่าว