แนวโน้มราคาทอง
ปรับตัวขึ้นในกรอบแคบลง
- ราคาทองปรับตัวขึ้น +18.97ดอลลาร์ คิดเป็น +0.74%
- ปิดตลาดที่ระดับ 2,577 ดอลลาร์
Gold spot
สูงสุด – 2,586 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2556 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 40,600 บาท
ต่ำสุด – 40,600 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทำ All-time high ซึ่งนักลงทุนเพิ่มน้ำหนักว่าเฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยมากขึ้น โดยโจน ฟอสต์ ที่ปรึกษาอาวุโสของเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด และอดีตประธานเฟดสาขานิวยอร์กหนุนลดดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือนก.ย. ทั้งนี้ตลาดคาดว่ามีโอกาส 50% ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% และอีก 50% ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ย 0.50% ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทองคำ 7.77 ตันจากสัปดาห์ก่อน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
สัปดาห์นี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ และการแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ
วิเคราะห์ราคาทอง
เกิดแท่งเทียนสีเขียวลากยาว 2 แท่งเทียนติดต่อกัน ซึ่งยังมีแรงซื้ออย่างแข็งแกร่ง และยังเปิดตลาดในวันนี้เป็นบวก ทำให้ราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น แต่คาดว่าราคาทองคำปรับตัวขึ้นในกรอบที่แคบลง โดยราคาทองคำมีแนวรับ 2,560 ดอลลาร์ และแนวต้าน 2,590 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ : 2,560 และ 2,550 ดอลลาร์
แนวต้าน : 2,590 และ 2,600 ดอลลาร์
หากเปิด Long position ไว้แนะนำ Let Profits Run หรือเข้าซื้อบริเวณ 2,560 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,550 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 40,400 และ 40,300 บาท
แนวต้าน : 40,700 และ 40,850 บาท
คาดว่าราคาทองคำแท่งปรับตัวขึ้นตามราคาทองคำโลก แต่อาจปรับตัวขึ้นกรอบจำกัด เนื่องจากถูกแรงกดดันจากค่าเงินบาทแข็งค่าอย่างมากเข้าใกล้ 33 บาท นอกจากนี้ ยังคาดว่าราคาทองคำแท่งอาจยังคงติดแนวต้านบริเวณ 40,800-41,000 บาท หากซื้อหรือขายเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น แนะนำบริเวณ 40,000-41,000 บาท