แนวโน้มราคาทอง
Sideways up
- ราคาทองปรับตัวขึ้น (+15.50) ดอลลาร์ คิดเป็น (+0.51%)
- ปิดตลาดที่ระดับ 3,049 ดอลลาร์
Gold spot
สูงสุด – 3,051 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 3,022 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 48,400 บาท
ต่ำสุด – 48,200 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำเดินหน้าปรับตัวขึ้น ทำ All-time high ที่ 3,051 ดอลลาร์ ขณะที่เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 4.25% – 4.50% เป็นไปตามตลาดคาด ส่วนในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.50% ในปีนี้ ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนธ.ค.2567 แต่เฟดได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีนี้ลงสู่ระดับ 1.7% และปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อในปีนี้สู่ระดับ 2.8% ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทอง 2.01 ตัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4,000 รายสู่ระดับ 224,000 ราย นอกจากนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนมี.ค. ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.พ. และดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจเดือนก.พ. โดย conference Board
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองคำยังคงยก High และ Low ต่อเนื่อง แม้ว่าราคาทองคำจะมีการย่อตัวเข้าใกล้แนวรับ 3,015-3,020 ดอลลาร์ แต่เป็นแนวรับที่มีแรงซื้อกลับเข้ามาได้ ดันราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้นต่อทำ High ใหม่ คาดว่าราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหว Sideways up
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ : 3,030 และ 3,020 ดอลลาร์
แนวต้าน : 3,060 และ 3,070 ดอลลาร์
สัญญาณทางเทคนิคจาก Modified Stochastic ยังบ่งชี้การปรับตัวขึ้นได้ต่อ หากมีการเข้าซื้อไว้ให้ Let Profit Run หรือรอเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาทองคำย่อลงมาบริเวณที่ 3,020 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 3,010 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 48,200 และ 48,000 บาท
แนวต้าน : 48,550 และ 48,700 บาท
ราคาทองคำแท่งยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง คาดว่ามีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้ต่อ เนื่องจากทองคำมีปัจจัยหนุนจากความไม่แน่นอนเศรษฐกิจสหรัฐ สงครามการค้ารุนแรง ทั้งนี้ยังไม่เกิดสัญญาณขายจาก Modified Stochastic หากมีการเข้าซื้อทองคำไว้แนะนำ Let Profit Run
