แนวโน้มราคาทอง
Sideways
- ราคาทองปรับตัวขึ้น +28.83 ดอลลาร์ คิดเป็น +1.11%
- ปิดตลาดที่ระดับ 2,622 ดอลลาร์
Gold spot
สูงสุด – 2,631 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,589 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 42,600 บาท
ต่ำสุด – 42,600 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
สัปดาห์ก่อนราคาทองคำปรับตัวลง ภายหลังที่เฟดส่งสัญญาณชะลอการปรับลดดอกเบี้ย แต่วันศุกร์ราคาทองคำขึ้นแรง เนื่องจากเงินเฟ้อ Core PCE เดือนพ.ย.ต่ำกว่าตลาดคาด ขณะที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวฉบับใหม่ในวันศุกร์ และวุฒิสภาสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวแล้วในวันเสาร์ ทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ รอดชัตดาวน์ ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทอง 13.5 ตันในสัปดาห์ก่อน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
สัปดาห์นี้สหรัฐฯ จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค. โดย Conference Board ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ย. ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
วิเคราะห์ราคาทอง
คาดราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบลง ทั้งนี้คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหว Sideways ในกรอบ 2,600-2,640 ดอลลาร์ ซึ่งราคาทองคำมีแนวต้าน 2,640 ดอลลาร์ และแนวรับ 2,600 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไปที่ 2,580 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ : 2,600 และ 2,580 ดอลลาร์
แนวต้าน : 2,630 และ 2,640 ดอลลาร์
คาดราคาทองคำเคลื่อนไหว Sideways แนะนำซื้อขายตามกรอบแนวรับแนวต้าน โดยเปิดสถานะขายบริเวณ 2,640 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,650 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 42,350 และ 42,150 บาท
แนวต้าน : 42,650 และ 42,850 บาท
ราคาทองคำแท่งยังคงมีแนวโน้มปรับตัวลง แต่อาจเริ่มลดความร้อนแรงลง ซึ่งคาดว่ามีแนวโน้มที่ราคาทองคำแท่งจะปรับตัวลงมาสู่บริเวณราคา 41,900-42,000 บาท และอาจยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ แนะนำ Wait & see รอเข้าซื้อบริเวณดังกล่าว
