แนวโน้มราคาทอง
ปรับตัวลง
- ราคาทองปรับตัวลง (-38.4) ดอลลาร์ คิดเป็น (-1.62%)
- ปิดตลาดที่ระดับ 2,321 ดอลลาร์
Gold spot
สูงสุด – 2,368 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,316 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 40,500 บาท
ต่ำสุด – 40,500 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
วันศุกร์ราคาทองคำปรับตัวลงแรง จากแรงกดดันเงินดอลลาร์แข็งค่าสุดในรอบ 8 สัปดาห์ และ Bond Yield สหรัฐเพิ่มขึ้น ภายหลังจากดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจของสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 26 เดือนในเดือนมิ.ย. และดัชนีภาคการผลิตและภาคบริการเดือนมิ.ย.สูงกว่าตลาดคาด ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทอง 6.62 ตันจากสัปดาห์ก่อน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
สัปดาห์นี้สหรัฐจะเปิดเผยจีดีพีไตรมาส 1 (ประมาณการครั้งสุดท้าย) และดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานเดือนพ.ค.
วิเคราะห์ราคาทอง
มีแรงขายอย่างแข็งแกร่ง กดดันให้ Low ของราคาทองคำเมื่อวันศุกร์ต่ำกว่าวัน ก่อนหน้า ซึ่งส่งผลต่อทิศทางราคาทองคำอาจปรับตัวลงในระยะสั้น ทั้งนี้ ราคาทองคำมีแนวรับสำคัญที่ 2,300 ดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าราคาทองคำอาจปรับตัวลงไปสู่แนวรับดังกล่าวที่ 2,300-2,305 ดอลลาร์
ราคาทองคำตลาดโลก
แนวรับ : 2,310 และ 2,300 ดอลลาร์
แนวต้าน : 2,330 และ 2,340 ดอลลาร์
เปิดสถานะขายที่ 2,330 ดอลลาร์ โดยมี จุดตัดขาดทุนที่ 2,340 ดอลลาร์ ทั้งนี้จับตา แนวรับสำคัญที่ 2,300-2,305 ดอลลาร์ หากยังคงยืนเหนือได้ให้ขายทำกำไร แต่ถ้าหลุดบริเวณแนวรับดังกล่าว ยังคงให้
Let Profit Run ได้ต่อ หรือ Follow เปิดสถานะขายได้ต่อ
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 40,350 และ 40,250 บาท
แนวต้าน : 40,550 และ 40,650 บาท
หากเก็งกำไรระยะสั้น แนะนำขายทำกำไร เนื่องจากระยะสั้นราคาทองคำแท่งอาจปรับตัวลง จากแนวโน้มปรับตัวลงของราคาทองคำโลกและเงินบาทอาจแข็งค่า ส่วนการรอเข้าซื้อรอบใหม่บริเวณ 40,000-40,100 บาท
