แนวโน้มราคาทอง
ปรับตัวขึ้น
- ราคาทองปรับตัวขึ้น +27.73 ดอลลาร์ คิดเป็น (+1.11%)
- ปิดตลาดที่ระดับ 2,512 ดอลลาร์
Gold spot
สูงสุด – 2,518 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,481 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 40,450 บาท
ต่ำสุด – 40,450 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรง หลังการประชุม Jackson Hole ประธานเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย. ทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าอย่างมาก Dollar index ร่วงลงแตะ 100.69 ตลาดคาดว่าเฟดอาจจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย. และจะปรับลดดอกเบี้ยอีกในการประชุมเดือนพ.ย. และธ.ค. ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทอง 1.15 ตันจากสัปดาห์ก่อน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4.0% จากที่ลดลง 6.7% ในเดือนมิ.ย.
วิเคราะห์ราคาทอง
ช่วงระยะนี้ราคาทองคำค่อนข้างผันผวน แม้ว่ามีแรงเทขายออกมาแรง แต่ก็มีแรงซื้อกลับมาแรง อย่างไรก็ตาม แรงซื้อยังคงแข็งแกร่งมากกว่าแรงขาย ทั้งนี้สัญญาณทางเทคนิคปรับเปลี่ยนทิศทางเป็นการปรับตัวขึ้นระยะสั้น โดยทองคำมีแนวต้านบริเวณ 2,520-2,530 ดอลลาร์ และยังคงให้ระวังแนวต้านดังกล่าว
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ : 2,500 และ 2,480 ดอลลาร์
แนวต้าน : 2,520 และ 2,530 ดอลลาร์
แนวโน้มราคาทองคำเป็นขาขึ้นระยะยาว แต่ก็ให้ระวังแรงเทขายบริเวณแนวต้าน 2,520-2,530 ดอลลาร์ ซึ่งสามารถเทรดดิ้งระยะสั้นบริเวณกรอบแนวรับแนวต้านระหว่าง 2,480-2,530 ดอลลาร์ โดยเปิดฝั่ง Short Position บริเวณแนวต้าน 2,530 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,540 ดอลลาร์ หรือเปิด Long position บริเวณ 2,480 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,470 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 40,300 และ 40,150 บาท
แนวต้าน : 40,550 และ 40,650 บาท
แม้ว่าราคาทองคำโลกจะปรับตัวขึ้นในวันศุกร์ แต่เงินบาทได้แข็งค่าอย่างรวดเร็วหลุด 34 บาท ซึ่งเงินบาทแข็งค่ามากถึง 1.85% ในช่วงสัปดาห์ก่อน กดดันให้ราคาทองคำแท่งในประเทศปรับตัวลง ทั้งนี้แนวโน้มราคาทองคำแท่งยังคงปรับตัวลงได้ต่อ จากสัญญาณทางเทคนิคของราคาทองคำแท่งยังดูไม่สดใส สำหรับเข้าซื้อทองคำแท่งให้ Wait & See