แนวโน้มราคาทอง
Sideways Up
- ราคาทองปรับตัวขึ้น +36.08 ดอลลาร์ คิดเป็น (+1.19%)
- ปิดตลาดที่ระดับ 3,056 ดอลลาร์
Gold spot
สูงสุด – 3,059 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 3,017 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 48,750 บาท
ต่ำสุด – 48,600 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทำ All-time high จากแรงหนุนความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านสงครามการค้าที่อาจรุนแรง หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์และรถบรรทุกขนาดเล็กในอัตรา 25% โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เม.ย. และการเรียกเก็บภาษีชิ้นส่วนรถยนต์จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 3 เม.ย ขณะที่แคนาดาและฝรั่งเศสได้ประกาศจะใช้มาตรการตอบโต้กลับเช่นกัน ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทอง 0.29 ตัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานเดือนก.พ. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% จากที่เพิ่ม 0.3% ในเดือนม.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.ของม.มิชิแกน ตลาดคาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 57.9
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองคำสามารถ Break out กรอบสามเหลี่ยมแบบ Symmetrical triangle ขึ้นไปได้ และปิดตลาดใกล้ High ของวัน ความกังวลสงครามการค้าที่รุนแรง โดยเฉพาะในสัปดาห์หน้า เป็นแรงขับเคลื่อนตลาดที่สำคัญ ซึ่งทำให้ราคาทองคำยังทรงตัวในระดับสูง และอาจมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้ต่อ คาดวันนี้ราคาทองคำเคลื่อนไหว Sideways up
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ : 3,040 และ 3,030 ดอลลาร์
แนวต้าน : 3,070 และ 3,085 ดอลลาร์
สามารถเข้าซื้อบริเวณ 3,030 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 3,020 ดอลลาร์ และสามารถ Let Profit Run เพื่อเก็งกำไรจาก Sentiment ของตลาด ซึ่งได้รับแรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า ที่อาจมีแนวโน้มรุนแรงในสัปดาห์หน้า
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 48,850 และ 48,700 บาท
แนวต้าน : 49,250 และ 49,400 บาท
ราคาทองคำแท่งปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อวานนี้ คาดว่าราคาทองคำแท่งมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้ต่อในวันนี้ และเคลื่อนไหวเหนือ 49,000 บาท ตลาดกลับมาให้ความสนใจเกี่ยวกับสงครามการค้าที่อาจมีแนวโน้มรุนแรงในสัปดาห์หน้า หลังทรัมป์ลงนามภาษีนำเข้าสินค้าที่มีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เม.ย.