แนวโน้มราคาทอง
ปรบตัวขึ้นกรอบแคบลง
- ราคาทองปรับตัวลง (-4.71) ดอลลาร์ คิดเป็น (-0.17%)
- ปิดตลาดที่ระดับ 2,741 ดอลลาร์
Gold spot
สูงสุด – 2,747 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,724 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 43,800 บาท
ต่ำสุด – 43,700 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ทองคำเริ่มมีแรงเทขาย ปิดตลาดลดลงเล็กน้อย เนื่องจากสถานการณ์ตะวันออกกลางตึงเครียดลดลง ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย และ Bond Yield พุ่งขึ้นกดดันราคาทองคำ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ย ก่อนการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทองคำ 1.72 ตัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค. โดย Conference Board ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 99.5 จาก 98.7 ในเดือนก.ย. และจำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัคร ตลาดคาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 7.98 ล้านตำแหน่งจาก 8.04 ล้านตำแหน่ง
วิเคราะห์ราคาทอง
แม้มีแรงเทขาย แต่ก็มีแรงซื้อกลับ ทำให้ราคาทองคำยังเคลื่อนไหวใกล้ All-time high ราคาทองคำจึงยังมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น คาดว่าราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้ต่อ แต่อาจปรับตัวขึ้นในกรอบแคบลง โดยราคาทองคำมีแนวต้านสำคัญที่ 2,758 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ : 2,725 และ 2,714 ดอลลาร์
แนวต้าน : 2,750 และ 2,758 ดอลลาร์
หากมีการเข้าซื้อไว้ แนะนำ Let Profit Run หรือรอเข้าซื้อบริเวณ 2,725 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,714 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 43,600 และ 43,500 บาท
แนวต้าน : 43,900 และ 44,000 บาท
ราคาทองคำแท่งยังเคลื่อนไหวใกล้ระดับ All-Time High ซึ่งมีแนวโน้มที่ราคาทองคำแท่งจะทดสอบระดับ All-Time High อีกครั้ง แม้ว่าเงินบาทมีการชะลอการอ่อนค่าลง แต่เงินบาทยังมีทิศทางอ่อนค่า ทั้งนี้ หากถือทองคำไว้ แนะนำถือได้ต่อ (Let Profit Run)