แนวโน้มราคาทอง
มีโอกาสแตะ 2,800
- ราคาทองปรับตัวขึ้น +12.07ดอลลาร์ คิดเป็น +0.43%
- ปิดตลาดที่ระดับ 2,786 ดอลลาร์
Gold spot
สูงสุด – 2,789 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,770 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 44,550 บาท
ต่ำสุด – 44,300 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อทำ All-time high ต่อเนื่อง โดย Bond Yield สหรัฐพุ่งขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ตลาดกังวลหนี้สาธารณะสูง นอกจากนี้สหรัฐได้มีการเปิดเผยจีดีพีไตรมาส 3 ประมาณการครั้งที่ 1 ของสหรัฐขยายตัว 2.8% ต่ำกว่าตลาดคาด ซึ่งหนุนราคาทองคำ แม้ว่าการจ้างงานภาคเอกชนทั่วประเทศเดือนต.ค. ของ ADP เพิ่มขึ้น 233,000 ต่ำแหน่ง แข็งแกร่งกว่าคาดมาก ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทองคำ 2.87 ตัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานเดือนก.ย. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% จากเพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบรายเดือน จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนี PMI เขตชิคาโกเดือนต.ค.
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองคำยังเคลื่อนไหวใกล้ระดับ All-time high ขณะที่สัญญาณทางเทคนิคของราคาทองคำจาก MACD ยังคงเกิด Bullish MACD และแม้เกิดสัญญาณ Overbought ใน Modified Stochastic แต่ยังไม่เกิดเส้นตัดกันลงมา คาดว่าราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้ต่อ โดยมีแนวต้าน 2,800 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ : 2,770 และ 2,760 ดอลลาร์
แนวต้าน : 2,790 และ 2,800 ดอลลาร์
ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้ต่อ หากมีการเข้าซื้อไว้ แนะนำ Let Profit Run หรือรอเข้าซื้อบริเวณ 2,770 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,760 ดอลลาร์ และ take profit ที่ 2,800 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 44,300 และ 44,200 บาท
แนวต้าน : 44,500 และ 44,600 บาท
ราคาทองคำแท่งทำ All-time high ใหม่ที่ราคา 44,550 บาท และมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้ต่อตามราคาทองคำโลกที่ทำ all-time high ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำแท่งอาจชะลอการปรับตัวขึ้นจากการชะลอของการอ่อนค่าของค่าเงินบาท ทั้งนี้ หากถือทองคำไว้ แนะนำถือได้ต่อ (Let Profit Run)