เงินบาทอ่อน ราคาทองคำแท่งพุ่งแตะ 44,000 บาท
ชัยชนะของ “ทรัมป์” หนุนดอลลาร์แข็งค่า
ทรัมป์มา เสี่ยงหนี้สาธารณะสหรัฐฯ สูง ดันทองคำในประเทศพุ่ง
จากผลการนับคะแนนล่าสุด แนวโน้มที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะคว้าชัยชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้และได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา คนที่ 47 เป็นไปได้สูงมาก แม้ว่าในขณะนี้จะยังไม่มีการประกาศผลอย่างเป็นทางการก็ตาม ทั้งนี้ ปัจจัยหนุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย มาจากนโยบายของทรัมป์ที่เอื้อต่อหนี้สาธารณะและเงินเฟ้อ ไม่ว่าจะเป็น
– การลดภาษีเงินได้นิติบุคคล: ทรัมป์เสนอให้ลดภาษีจาก 21% เหลือ 15% ซึ่งอาจกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ แต่ก็เพิ่มการขาดดุลงบประมาณและหนี้สาธารณะได้
– มาตรการการค้าและการควบคุมแรงงานต่างชาติ: นโยบายการเก็บภาษีนำเข้าจากจีน อาจทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ซึ่งกระตุ้นภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐ นอกจากนี้ การลดจำนวนผู้อพยพอาจเพิ่มต้นทุนแรงงานภายในประเทศ ทำให้ราคาสินค้าแพงขึ้นและเงินเฟ้อสูงต่อไป
– แนวโน้มดอกเบี้ยและเงินเฟ้อ: ด้วยนโยบายของเฟดที่ปรับลดดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมา หากเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น ตลาดอาจคาดการณ์ว่าเฟดจะชะลอการลดดอกเบี้ย ส่วนทิศทาง
ดอกเบี้ยขาลงในปีหน้าจะยังคงเกิดขึ้นหรือไม่? หรือดอกเบี้ยขาลงจะจบเร็วกว่าที่ตลาด
คาดการณ์ไว้
– ปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์: ความไม่แน่นอนจากคดีความของทรัมป์ รวมถึงความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างจีนกับไต้หวัน สงครามในตะวันออกกลาง และการค้าระหว่างประเทศ ล้วนเป็นปัจจัยเสริมให้ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นต่อไป
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจะเริ่มกลับมาสนใจเรื่องหนี้สาธารณะสูงของสหรัฐฯ ทั้งนี้ ถ้าเราพิจารณาเหตุการณ์เมื่อครั้งที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีฯ ในปี 2559 สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ก่อนปี 2559 พบว่า หนี้สาธารณะต่อ GDP ของสหรัฐฯ น้อยกว่า 100% แต่เมื่อนายโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีฯ หนี้สาธารณะต่อ GDP ของสหรัฐฯ ได้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนหนี้สาธารณะต่อ GDP มากกว่า 100% ซึ่งส่วนหนึ่งอาจมาจากนโยบายการปรับลดภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในจุดนี้อาจยิ่งทำให้ตลาดกลับมากังวลเกี่ยวกับหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ได้ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ยังคงสร้างแรงบวกต่อราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้นต่อไปได้ นอกจากนี้ ด้วยภาวะเงินเฟ้อที่มีความเสี่ยงจะกลับมาพุ่งสูงขึ้น แม้ดอกเบี้ยขาลงของสหรัฐฯ จะจบลงเร็วก็ตาม แต่ยังคงเป็นประเด็นหนุนราคาทองคำได้ เพราะตลาดมีความกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อสูง
แม้จะมีแรงเทขายออกมาก่อนหน้านี้
แต่คาดว่าราคาทองคำเป็นการย่อตัวเพื่อปรับตัวขึ้นได้ต่อ และมีโอกาสทำ All-time High ได้ใหม่ในปีหน้า ประเมินว่าในปีหน้ามีโอกาสทดสอบถึงระดับ 3,000 – 3,100 ดอลลาร์ จากสัญญาณเทคนิครูปแบบ Cup and Handle”