Desktop 1550x550 13

แนวโน้มตลาดและการลงทุน

Market Focus Weekly 03-03-68

03 มีนาคม 2568|08:13 น.

ปัจจัยอะไรที่ต้องติดตาม สำหรับการปรับฐานรอบใหม่ ทองจะขึ้นอีกเมื่อไหร่?

Gold Bullish

  • ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น
  • ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำต่อเนื่อง
  • ความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้ารอบใหม่

Gold Bearish

  • เฟดชะลอการปรับลดดอกเบี้ย

ปัจจัยอะไรที่ต้องติดตาม สำหรับการปรับฐานรอบใหม่ ทองจะขึ้นอีกเมื่อไหร่?

 สัปดาห์ก่อนราคาทองคำเริ่มปรับฐาน เนื่องจากราคาทองคำโลกได้ปรับตัวขึ้นไปแตะแนวต้านสำคัญที่ระดับ Fibonacci 1.618 ก่อนที่จะเริ่มปรับฐานลง ซึ่งสะท้อนว่าราคาทองคำได้ทดสอบเป้าหมายทางเทคนิคแล้ว

สำหรับแนวรับสำคัญของรอบนี้ อยู่ที่ระดับ Fibonacci  1.272 (2,855 ดอลลาร์) ซึ่งราคาทองคำหลุดแนวรับ 2,855 ดอลลาร์ ก่อนที่จะดีดกลับปิดตลาดเหนือแนวรับดังกล่าวเล็กน้อยในสัปดาห์ก่อน ทำให้อาจมีโอกาสลงไปทดสอบ 2,770 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับแนวรับในการเข้าซื้อสำหรับนักลงทุนที่รอจังหวะอยู่

แต่คำถามสำคัญคือ ราคาทองจะกลับมาขึ้นอีกเมื่อไหร่? คำตอบขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตาดังต่อไปนี้

1. ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ตลาดยังคงคาดว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปี 2568 โดยเริ่มครั้งแรกเดือนมิถุนายน และครั้งที่สองเดือนกันยายน ซึ่งต้องรอติดตามการประกาศ Dot Plot วันที่ 19 มีนาคม ว่าจะมีการปรับมุมมองดอกเบี้ยในปีนี้อย่างไร หากส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยน้อยกว่า 2 ครั้ง อาจเป็นปัจจัยที่กดดันราคาทองในปีนี้ แต่หากยังยืนยันว่ามีแนวโน้มที่จะปรับลดถึง 2 ครั้งจริงก็จะเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาทองโลก ให้กลับมาเร่งตัวขึ้นลุ้นทำจุดสูงสุดใหม่ได้อีกครั้ง ซึ่งหากสถานการณ์ยังคงเดิม มองว่าอาจยังคงเดินหน้าลดดอกเบี้ยต่อในปีนี้ ถึง 2 ครั้งได้ยาก แต่น่าจะเห็นการปรับลดดอกเบี้ยอย่างน้อย 1 ครั้ง

2. สงครามการค้าและนโยบาย “ทรัมป์ 2.0”
ความไม่แน่นอนของแผนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าของทรัมป์ และสงครามการค้าได้เป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทำ All-time high ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นก่อนหน้านี้ทรัมป์ได้ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้ากับจีน ทำให้จีนได้มีการตอบโต้กลับ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากสหรัฐในอัตรา 15% และเรียกเก็บภาษีนำเข้าน้ำมันดิบ อุปกรณ์ด้านการเกษตร และรถยนต์บางประเภท ในอัตรา 10% นี้ทรัมป์ยังทำสงครามการค้ากับทุกประเทศ โดยทรัมป์ลงนามในคำสั่งบริหารเพื่อปรับขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมเป็นอัตรา 25% โดยไม่มีข้อยกเว้นสำหรับประเทศใด ๆ ทั้งสิ้น ล่าสุดทรัมป์ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารสั่งการให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณาความเป็นไปได้ในการเรียกเก็บภาษีนำเข้าทองแดง ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดของทรัมป์ในการใช้มาตรการกำแพงภาษีเพื่อคุ้มครองอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ  ด้านแผนการเดินหน้าขึ้นภาษีนำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก หลังครบกำหนดเวลาผ่อนผัน 30 วัน ทรัมป์ยังยืนยันเดินหน้าเก็บภาษีนำเข้าสินค้า จุดชนวนความกังวลเรื่องสงครามการค้า โดยท่าทีของทรัมป์ดังกล่าว ส่งผลให้เศรษฐกิจโลก ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อีกครั้ง จึงเป็นการกระตุ้นความต้องการซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น

3. การขยายตัวของกลุ่ม BRICS และการลดการพึ่งพาดอลลาร์
BRICS ใหม่ ซึ่งมีสมาชิกเพิ่มเติม ได้มีบทบาทสำคัญมากขึ้นในเศรษฐกิจโลก โดยถือครองสัดส่วนหลักในหลายภาคส่วน ได้แก่ การส่งออกสินค้า: 20.30% ของการส่งออกโลก การผลิตน้ำมัน: 34.28% ของอุปทานน้ำมันโลก ประชากร: 44.67% ของประชากรโลก GDP ตามความสามารถซื้อ (PPP): 36.44% ของเศรษฐกิจโลก หาก BRICS สามารถรวมตัวกันได้แข็งแกร่งขึ้น จะเป็นปัจจัยที่กดดันสหรัฐฯ และอาจทำให้ ดอลลาร์อ่อนค่าลง ซึ่งเป็นผลบวกต่อราคาทองคำ

4. ทิศทางนโยบายเศรษฐกิจจีน
จีนกำลังเตรียม เพิ่มขาดดุลงบประมาณเป็น 4% ของ GDP ในปี 2568 ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพื่อรับมือกับสงครามการค้าของสหรัฐฯ โดยมีมาตรการสำคัญ เช่น อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ย อัดฉีดสภาพคล่องเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ รับมือกับปัญหาเศรษฐกิจ เช่น วิกฤติอสังหาริมทรัพย์และหนี้ท้องถิ่น หากจีนใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จะเพิ่มดีมานด์ในตลาดโลก รวมถึงความต้องการทองคำ ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำ

5. การซื้อทองคำของธนาคารกลาง
ปี 2567 เป็นปีที่ ธนาคารกลางทั่วโลกซื้อทองคำเกิน 1,000 ตัน เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน โดยธนาคารที่ซื้อทองมากที่สุด ได้แก่ โปแลนด์ – 89.50 ตัน ตุรกี – 74.80 ตัน อินเดีย – 72.60 ตัน อาเซอร์ไบจาน – 44.80 ตัน และจีน – 44.20 ตัน ซึ่งธนาคารกลางจีนกลับมาซื้อทองคำ ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 แม้ว่าราคาทองคำจะอยู่ในช่วงขาขึ้น ซึ่งสะท้อนแนวโน้มการ ลดการพึ่งพาดอลลาร์ (De-dollarization) และการใช้ทองคำเป็นสินทรัพย์สำรอง

6. ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์
ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตา ได้แก่ สงครามรัสเซีย-ยูเครน และสงครามอิสราเอล-ฮามาส

ซึ่งยังต้องติดตามปัจจัยดังกล่าว หากปัจจัยเหล่านี้ยังคงดำเนินต่อไป ราคาทองคำมีโอกาสกลับมาเร่งตัวขึ้น และกลับมาทำจุดสูงสุดใหม่ในปี 2568 ได้อีกครั้ง

ดาวน์โหลดเอกสาร

แชร์บทความนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง

 
Cover 1000x670 02

Night Recap Gold Futures 31-03-2568

16:21 น.

 
Cover 1000x670 10

Night Recap Gold Spot 31-03-2568

16:03 น.

 
Cover 1000x670 01

Daily Recap Gold Futures 31-03-2568

09:00 น.

 
Cover 1000x670 06

Derivative Recap 31-03-2568

08:50 น.

คำถามที่พบบ่อย

เกี่ยวกับเรา

พูดคุยกับเรา

พบเจอปัญหา หรือมีข้อสงสัย
ทักหาเราได้เลยที่นี่

เวลาทำการลูกค้าสัมพันธ์
จันทร์ - ศุกร์ 08.30 น. - 24.00 น.
เสาร์ - อาทิตย์ 08.30 น. - 17.30 น.

For the best experience, we recommend viewing the site in portrait orientation on mobile devices.

ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน กรุณาดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และตั้งค่าคุกกี้ได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

You can choose your cookie settings by enabling/disabling cookies for each category as needed, except for necessary cookies.

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานพื้นฐานของเว็บไซต์
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้เหล่านี้จำเป็นสำหรับการทำงานพื้นฐานของเว็บไซต์ เช่น การรักษาการล็อกอินของผู้ใช้ การบันทึกสินค้าที่เพิ่มลงในรถเข็น และการบันทึกการตั้งค่าภาษา
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้วิเคราะห์เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน

    คุกกี้เหล่านี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ เช่น จำนวนผู้เข้าชม, หน้าเว็บที่ได้รับความนิยม และพฤติกรรมการท่องเว็บ ซึ่งช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์ปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้การทำงานเพื่อจดจำการตั้งค่าผู้ใช้

    คุกกี้เหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ โดยจดจำการตั้งค่าที่ผู้ใช้เคยกำหนดไว้ เช่น ชื่อผู้ใช้, ภาษา, ภูมิภาค หรือการปรับแต่งเว็บไซต์ตามความต้องการ
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ของบุคคลที่สามเพื่อการวิเคราะห์และการตลาด

    คุกกี้เหล่านี้ถูกตั้งค่าโดยบุคคลที่สาม เช่น ผู้ให้บริการวิเคราะห์ข้อมูลหรือผู้ให้บริการโฆษณา และใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เช่น การวิเคราะห์เว็บไซต์และการทำการตลาด
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้โฆษณาเพื่อแสดงโฆษณาที่ตรงกับความสนใจ

    คุกกี้เหล่านี้ใช้เพื่อติดตามการใช้งานของผู้ใช้บนเว็บไซต์ต่าง ๆ และแสดงโฆษณาที่ตรงกับความสนใจของผู้ใช้มากขึ้น ซึ่งมักจะใช้โดยเครือข่ายโฆษณาภายนอก
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า