Desktop 1550x550 13

แนวโน้มตลาดและการลงทุน

Market focus weekly 07-05-67

13 พฤษภาคม 2567|12:54 น.

ทองปรับลง ควรเข้าซื้อที่ราคาเท่าไหร่ดี?

Gold Bullish

  • ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ สงครามยูเครน-รัสเซีย สงครามอิสราเอล-ฮามาส
  • ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำต่อเนื่อง
  • ความต้องการทองจากกระแส De-Dollarization

Gold Bearish

  • เงินเฟ้อที่ยังอยู่ระดับสูงกว่าเป้าหมาย
  • เฟดส่งสัญญาณตรึงดอกเบี้ยสูงนานขึ้น

ทองปรับลง ควรเข้าซื้อที่ราคาเท่าไหร่ดี?
แม้ว่าการปรับตัวลงแรงของราคาทองคำในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ปัจจัยหลักที่ทราบกันดีมาจาก ความคลายกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตะวันออกกลางที่ไม่มีความตึงเครียดมากกว่าเดิม อิหร่านไม่มีแผนการตอบโต้อิสราเอลกลับ อีกทั้งยังมีการเจรจาที่เกิดขึ้นระหว่างกลุ่มฮามาสกับอิสราเอลเกี่ยวกับการหยุดยิง ทำให้สถานการณ์เกิดการผ่อนคลายไปชั่วคราว รวมถึงกรณีที่เฟดอาจเลื่อนลดดอกเบี้ยออกไปนานกว่าตลาดคาดการณ์ ทำให้อัตราดอกเบี้ยสหรัฐอยู่ระดับสูงนานขึ้น ราคาทองคำโลกจึงปรับตัวลงอย่างร้อนแรง หลังจากที่ปรับตัวขึ้นสู่ All-Time High ก่อนหน้านี้ ซึ่งสถานการณ์ช่วงนี้อาจมีปัจจัยด้านลบต่อราคาทองคำมากกว่า ทำให้ทองคำดูเหมือนไม่น่าสนใจ

อย่างไรก็ตาม เรายังคงเน้นย้ำว่า ราคาทองคำอยู่ในช่วงปรับฐาน และยังน่าสนใจในระยะยาว ถ้าพิจารณาว่าราคาทองคำโลกมีโอกาสที่จะปรับตัวลงไปสู่ระดับเท่าใด? หากวิเคราะห์จากสัญญาณทางเทคนิคของราคาทองคำ spot มีโอกาสปรับตัวลงได้อีก เราประเมินว่าแนวรับแรกที่สามารถเข้าซื้อได้อยู่บริเวณ 2,230-2,240 ดอลลาร์ ที่คาดว่าราคาทองคำอาจเห็นการรีบาวด์ได้ ทั้งนี้สามารถซื้อแล้วขายทำกำไรในระยะสั้นได้ อย่างไรก็ตาม หากหลุดแนวรับดังกล่าวให้ชะลอการเข้าซื้อออกไป เพราะคาดว่าราคาทองคำมีแนวโน้มจะปรับตัวลงต่ำกว่า 2,200 ดอลลาร์ ทั้งนี้การปรับตัวลงของราคาทองคำในช่วงนี้เป็นจังหวะของการเข้าซื้อ จึงยังคงแนะนำให้เข้าซื้อไล่ตามแนวรับสำคัญต่างๆ เนื่องจากสถานการณ์ในตะวันออกกลางยังอาจไม่จบลงอย่างง่ายดาย ซึ่งแม้ ณ ตอนนี้จะมีการเจรจาที่เกิดขึ้น แต่การเจรจาสงบศึกระหว่างฮามาสกับอิสราเอลยังไม่คืบหน้า และอิสราเอลยันไม่หยุดยิงถาวร รวมถึงการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดที่อาจจะเกิดขึ้นในปีนี้ ซึ่งยังคงเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำในระยะยาว

ขณะที่ทองคำไทยก็ยังคงมีความน่าสนใจ แม้ว่าขณะนี้ราคาทองคำแท่งในประเทศจะมีแนวโน้มปรับตัวลงระยะสั้น ตามแรงกดดันจากแนวโน้มการปรับตัวลงของราคาทองคำโลก และค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่อง แต่ข้อมูลสถิติของผลตอบแทนทองคำโลกกับทองคำแท่งในประเทศ ในการหาผลตอบแทนทองคำเฉลี่ย 3 ปี 5 ปี และ 10 ปี พบว่า ทองคำแท่งในประเทศมักจะให้ผลตอบแทนดีกว่าทองคำโลก นั่นคือ ผลตอบแทนของทองคำแท่งในประเทศเฉลี่ย 3 ปี 5 ปี และ 10 ปี อยู่ที่ 7.9% 11.5% และ 6.3% ตามลำดับ ขณะที่ผลตอบแทนของทองคำแท่งโลกเฉลี่ย 3 ปี 5 ปี และ 10 ปี อยู่ที่ 3.1% 10.5% และ 6.1% ตามลำดับ นอกจากนี้ประเทศไทยมีความต้องการทองคำจากผู้บริโภคในอันดับต้นๆของอาเซียน โดยประเทศไทยมีการความต้องทองคำจากผู้บริโภคมากที่สุดในอาเซียนในปี 2554-2561 ก่อนที่ความต้องการทองคำจะลดลงในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปี 2562-2563 อย่างไรก็ตาม ความต้องการทองคำในไทยมีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วภายหลังสถานการณ์โควิดเบาบางลง จนความต้องการทองคำในไทยฟื้นตัวกลับมานำประเทศในอาเซียนขึ้นเป็นอันดับ 3 ในอาเซียน ซี่งความต้องการทองคำในไทยรองจากเวียดนาม และอินโดนีเซีย โดยไทยมีความต้องการทองคำ 42.1 ตันในปี 2566 (ส่วนปี 2566 เวียดนามมีความต้องการทองคำ 55.5 ตัน และอินโดนีเซียมีความต้องการทองคำ 53.9 ตัน) ทั้งนี้ข้อมูลจาก Gold Demand Trends จากสภาทองคำโลก (World Gold Council) ระบุว่าในปี 2566 ที่ผ่านมา ประเทศไทยเป็นตลาดที่มีการเติบโตของความต้องการทองคำผู้บริโภค (Consumer Gold Demand) สูงที่สุดในภูมิภาคอาเซียน โดยเพิ่มขึ้นถึง 9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จาก 38.4 ตันในปี 2565 เป็น 42.1 ตันในปี 2566 การเติบโตนี้เป็นผลมาจากความต้องการทองคำแท่งและเหรียญทองคำที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งมีมากกว่าการปรับตัวลดลงของความต้องการทองคำแบบเครื่องประดับ ซึ่งตลาดทองคำในประเทศยังคงมีความต้องการทองคำสูง และยังคงเป็นที่นิยมในทุกช่วงอายุของคนในปัจจุบัน

สัญญาณทางเทคนิคของราคาทองคำมีทิศทางปรับตัวลงในระยะสั้น คาดว่ามีโอกาสปรับตัวลงไปสู่ระดับ 2,240 ดอลลาร์ในระยะแรก ก่อนที่จะมีการรีบาวด์เกิดขึ้นโดยมีแนวต้าน 2,340 ดอลลาร์ กลยุทธ์การลงทุนสามารถเข้าซื้อขายในกรอบ 2,240-2,340 ดอลลาร์ ทั้งนี้หากหลุดแนวรับ 2,240 ดอลลาร์ให้ชะลอการเข้าซื้อ เนื่องจากมีโอกาสที่จะหลุดบริเวณราคา 2,200 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม เป็นจังหวะในการเข้าซื้อสะสมทองคำสำหรับคนที่ลงทุนระยะยาวขึ้น แนะนำให้เข้าซื้อตามแนวรับต่าง ๆ โดยแบ่งเป็นหลายไม้ ส่วนสำหรับคนที่จะเข้าซื้อทองคำแท่ง ให้ดูราคาทองคำโลก แล้วเข้าซื้อตามแนวรับ 2,240 ดอลลาร์ หรือหลุด 2,200 ดอลลาร์ ทั้งนี้คาดว่าราคาทองคำแท่งมีโอกาสหลุด 40,000 บาท สัปดาห์นี้ราคาทองคำมีแนวรับอยู่ที่ 2,260 ดอลลาร์ และ 2,240 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 2,340 ดอลลาร์ และ 2,360 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 39,800 บาท และ 39,400 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 40,500 บาท และ 40,800 บาท

ดาวน์โหลดเอกสาร

แชร์บทความนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง

 
Cover 1000x670 02

Night Recap Gold Futures 26-12-2567

17:08 น.

 
Cover 1000x670 10

Night Recap Gold Spot 26-12-2567

16:54 น.

 
Cover 1000x670 06

Derivative Recap 26-12-2567

08:54 น.

 
Cover 1000x670 01

Daily Recap Gold Futures 26-12-2567

08:44 น.

คำถามที่พบบ่อย

เกี่ยวกับเรา

พูดคุยกับเรา

พบเจอปัญหา หรือมีข้อสงสัย
ทักหาเราได้เลยที่นี่

เวลาทำการลูกค้าสัมพันธ์
จันทร์ - ศุกร์ 08.30 น. - 24.00 น.
เสาร์ - อาทิตย์ 08.30 น. - 17.30 น.

For the best experience, we recommend viewing the site in portrait orientation on mobile devices.

ตะกร้าสินค้า0
ไม่มีสินค้าในตะกร้า
เลือกซื้อสินค้าต่อ
This site is registered on wpml.org as a development site. Switch to a production site key to remove this banner.