2 ประเด็นที่ต้องติดตามในเดือนก.ค.
Gold Bullish
- ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น
- ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำต่อเนื่อง
- ความต้องการทองจากกระแส De-Dollarization ตลาดคาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.
Gold Bearish
- เงินเฟ้อที่ยังอยู่ระดับสูงกว่าเป้าหมาย
2 ประเด็นที่ต้องติดตามในเดือนก.ค.
หลังจากเมื่อวันศุกร์ราคาทองคำดีดตัวขึ้นแรง จากข้อมูลตลาดแรงงานกำลังชะลอตัวลง ยิ่งหนุนปัจจัยความคาดหวังว่าเฟดอาจจะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.นี้ ทั้งนี้จึงต้องจับตาประเด็นสำคัญประการแรก นั่นคือ สัปดาห์นี้ติดตามนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในเดือนก.ค. โดยประธานเฟดจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันที่ 9 ก.ค. ก่อนที่จะกล่าวต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 10 ก.ค. ซึ่งอาจจะเห็นมุมมองเศรษฐกิจสหรัฐ และที่สำคัญคือแนวทางการดำเนินนโยบายการเงินของสหรัฐ ที่นักลงทุนอาจจับสัญญาณความเป็นไปได้ในการลดดอกเบี้ยของเฟดมากขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้เฟดรอดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ และอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงสู่ระดับเป้าหมาย 2% อย่างยั่งยืนก่อนที่จะเริ่มพิจารณาการปรับลดดอกเบี้ย และได้ส่งสัญญาณจะปรับลดดอกเบี้ย 1 ครั้งในปีนี้ แต่ตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐ ก็ได้เพิ่มความคาดหวังของนักลงทุนมากขึ้น นักลงทุนคาดหวังว่าเฟดอาจจะลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น โดยเฟดอาจจะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.นี้ และคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้
ประเด็นต่อมา หลังจากเวทีดีเบตของประธานาธิบดีโจ ไบเดน และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งผลการสำรวจของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นออกมายกให้นายทรัมป์เป็นฝ่ายชนะการแสดงวิสัยทัศน์ในครั้งนี้ ท่ามกลางแรงกดดันแก่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน หลังจากพ่ายแพ้ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ในการดีเบตครั้งแรก ขณะที่ในวันที่ 15-18 ก.ค.นี้ จะมีการประชุมครั้งใหญ่ของพรรครีพับลิกัน ทั้งนี้การประชุมครั้งนี้จะมีการเสนอชื่อบุคคลเพื่อเป็นตัวแทนพรรคการเมืองอย่างเป็นทางการเพื่อชิงตัวแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งสหรัฐในเดือนพ.ย. ทั้งนี้ก็คาดว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ จะได้รับการเสนอชื่อในครั้งนี้อย่างแน่นอน หลังจากที่ได้มีการชนะดีเบตในครั้งแรก และที่สำคัญยังคงต้องติดตามความเข้มข้นการเมืองของสหรัฐในช่วงนี้ ทั้งนโยบายหาเสียงของแต่ละพรรคที่อาจจะประกาศออกมาเพิ่มเติม หรือแม้แต่ที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้รับแรงกดดันให้ถอนตัว หลังความพ่ายแพ้ให้กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งหากไบเดนได้ถอนตัวในครั้งนี้ บุคคลที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดที่จะได้รับเลือกมาเป็นตัวแทนประธานาธิบดีโจ ไบเดน นั่นคือ คามาลา แฮริส รองประธานาธิบดีสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจของวอลล์สตรีท เจอร์นัล (WSJ) บ่งชี้ว่า 86% ของสมาชิกพรรคเดโมแครตจะยังลงคะแนนเสียงให้กับประธานาธิบดีโจ ไบเดนในการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ แต่ที่น่าสนใจไปกว่านั้นตัวเลขที่ลดลง จากก่อนหน้านี้กว่า 93% ของสมาชิกพรรคเดโมแครตที่จะลงคะแนนเสียงให้กับนายไบเดน ทั้งนี้คาดว่าการเมืองสหรัฐจะมีแนวโน้มเข้มข้นเรื่อยๆ
เกิดแท่งเทียนสีเขียวลากยาวเต็มแท่ง ซึ่งบ่งชี้แรงซื้อเข้ามาอย่างแข็งแกร่งมาก ประกอบกับเครื่องมือทางเทคนิค MACD > Signal Line และ MACD>0 ซึ่งคาดว่ามีแนวโน้มที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้ต่อ โดยมีโอกาสที่ราคาทองคำจะทดสอบบริเวณ 2,400 ดอลลาร์อีกครั้ง โดยราคาทองคำมีแนวรับ 2,365 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไปคือ 2,350 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 2,400 ดอลลาร์ และแนวต้าน 2,420 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 40,800 บาท และ 40,600 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 41,300 บาท และ 41,500 บาท