สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (2 ต.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยกดดันตลาด ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลข้อมูลแรงงานของสหรัฐฯ และสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 20.60 ดอลลาร์ หรือ 0.77% ปิดที่ 2,669.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 17.80 เซนต์ หรือ 0.56% ปิดที่ 31.92 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 15.80 ดอลลาร์ หรือ 1.58% ปิดที่ 1,016.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 23.40 ดอลลาร์ หรือ 2.35% ปิดที่ 1,018.70 ดอลลาร์/ออนซ์
บ็อบ ฮาเบอร์คอร์น นักกลยุทธ์การตลาดจากบริษัท RJO Futures กล่าวว่า การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ส่งผลให้เกิดแรงเทขายในตลาดทองคำ อย่างไรก็ดี สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางยังคงเป็นปัจจัยหนุนทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยหากอิสราเอลตัดสินใจโจมตีอิหร่าน ก็อาจทำให้ราคาทองพุ่งขึ้นแตะระดับ 2,700 ดอลลาร์/ออนซ์
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ดีดตัวขึ้น 0.48% แตะที่ระดับ 101.677 เมื่อคืนนี้
นักลงทุนติดตามสถานการณ์ในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด หลังจากอิสราเอลประกาศว่าจะโจมตีอิหร่าน เพื่อตอบโต้อิหร่านที่ยิงขีปนาวุธจำนวนมากโจมตีอิสราเอลเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ขณะที่กลุ่ม Islamic Resistance ในอิรัก ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธชาวมุสลิมนิกายชีอะห์และได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ได้ส่งโดรนโจมตีเป้าหมายหลายแห่งในอิสราเอล
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และในวันศุกร์จะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.
ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์