ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (2 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง และจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,196.52 จุด เพิ่มขึ้น 39.55 จุด หรือ +0.09%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,709.54 จุด เพิ่มขึ้น 0.79 จุด หรือ +0.01% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,925.12 จุด เพิ่มขึ้น 14.76 จุด หรือ +0.08%
นักลงทุนติดตามสถานการณ์ในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด หลังจากอิสราเอลประกาศว่าจะโจมตีอิหร่าน เพื่อตอบโต้อิหร่านที่ยิงขีปนาวุธจำนวนมากโจมตีอิสราเอลเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ไม่สนับสนุนให้อิสราเอลตอบโต้อิหร่านด้วยการโจมตีฐานที่ตั้งโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน และเรียกร้องให้อิสราเอลดำเนินการอย่าง “พอเหมาะพอควร”
รายงานล่าสุดระบุว่า กลุ่ม Islamic Resistance ในอิรัก ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธชาวมุสลิมนิกายชีอะห์และได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ได้ส่งโดรนโจมตีเป้าหมายหลายแห่งในอิสราเอล
หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเทคโนโลยีที่คำนวณในดัชนี S&P500 พุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุด โดยปรับตัวขึ้น 1.12% และ 0.59% ตามลำดับ โดยหุ้น Nvidia พุ่งขึ้น 1.6% หุ้น Broadcom พุ่งขึ้น 1.90% ส่วนหุ้นในกลุ่มพลังงานนั้น หุ้น Exxon Mobil พุ่งขึ้น 1.3% หุ้น Chevron บวก 0.8%
หุ้น Tesla ร่วงลง 3.49% หลังบริษัทเปิดเผยตัวเลขการส่งมอบรถยนต์ในไตรมาส 3/2567 อยู่ที่ระดับ 462,890 คัน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 463,310 คัน
หุ้น Nike ซึ่งเป็นผู้ผลิตรองเท้าและเสื้อผ้ากีฬารายใหญ่ของสหรัฐฯ ร่วงลง 6.8% หลังจากบริษัทประกาศยกเลิกตัวเลขคาดการณ์รายได้ตลอดปีงบการเงิน
นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และในวันศุกร์จะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย. นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูผลประกอบการประจำไตรมาส 3/2567 ของเจพีมอร์แกน เชส และธนาคารรายอื่น ๆ ในสัปดาห์หน้า
สำหรับข้อมูลแรงงานที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 143,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 128,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 103,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาเหตุการณ์ประท้วงผละงานของคนงานท่าเรือจำนวน 45,000 คนในเขตอีสต์โคสต์และกัลฟ์โคสต์ของสหรัฐฯ ซึ่งการประท้วงได้ล่วงเข้าสู่วันที่ 2 โดยยังไม่มีการบรรลุข้อตกลงในประเด็นปรับขึ้นค่าจ้าง ขณะที่นักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกนประมาณการว่า การประท้วงผละงานของคนงานท่าเรือเหล่านี้ส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้รับความเสียหายประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์ต่อวัน
ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์