สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 2,600 ดอลลาร์ได้เป็นครั้งแรกในวันศุกร์ (20 ก.ย.) โดยได้รับแรงหนุนจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐฯ และความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 31.60 ดอลลาร์ หรือ 1.21% ปิดที่ 2,646.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 82 เซนต์ หรือ 0.26% ปิดที่ 31.505 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 2.40 ดอลลาร์ หรือ 0.24% ปิดที่ 992.00 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 20.50 ดอลลาร์ หรือ 1.87% ปิดที่ 1,078.10 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาทองคำได้แรงหนุนล่าสุดหลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% เมื่อวันพุธ ซึ่งได้เพิ่มความน่าดึงดูดใจให้กับราคาทองคำซึ่งไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
ราคาทองคำซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยปรับตัวขึ้น 27% แล้วในปีนี้ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นรายปีมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2553 เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความขัดแย้งที่ยืดเยื้อในตะวันออกกลางและที่อื่น ๆ
บรรดานักวิเคราะห์กล่าวว่า การทะยานขึ้นมากเป็นประวัติการณ์ของราคาทองคำอาจถึงเวลาปรับฐาน
การทะยานขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ของราคาทองคำได้ลดความต้องการทองคำในจีนและอินเดีย
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางรายระบุว่า สัญญาทองคำอาจปรับตัวขึ้นอีก เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนค่าลง ซึ่งจะทำให้ราคาทองคำถูกลงสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น ๆ
นอกจากนี้ ฟาวาด ราซัคซาดา นักวิเคราะห์จาก Forex.com ระบุว่า “ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ความขัดแย้งที่ยังคงดำเนินอยู่ในกาซา ยูเครน และในที่อื่น ๆ นั้น จะช่วยหนุนความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยต่อไป”
ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์