ทรัมป์ ประกาศเลื่อน เก็บภาษีนำเข้าเม็กซิโก-แคนาดา มีผล 2 เม.ย.68 พร้อมขู่รีดภาษีศุลกากรตอบโต้กันจากยุโรป 25%
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ระงับการจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดา เป็นเวลาอีก 1 เดือน
โดยระบุว่าการจัดเก็บภาษีดังกล่าวอาจมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เม.ย. 2568 นอกจากนั้นทรัมป์ยังได้กำหนดมาตรการจัดเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้กัน 25% สำหรับรถยนต์ยุโรปและสินค้าอื่น ๆ อีกด้วย
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่งกล่าวว่า กำหนดเส้นตายก่อนหน้านี้ของทรัมป์ในวันที่ 4 มีนาคม 2568 สำหรับการจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดา 25% ยังคงมีผลบังคับใช้ ณ ขณะนี้ รอจนกว่าทรัมป์จะทบทวนการดำเนินการของเม็กซิโกและแคนาดาเพื่อรักษาความปลอดภัยชายแดนและหยุดยั้งการไหลเข้าของผู้อพยพและเฟนทานิลซึ่งเป็นสารโอปิออยด์สู่สหรัฐ
ทรัมป์ทำให้เกิดความสับสนในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรกเมื่อวันที่ 26 ก.พ.68 เมื่อถูกถามเกี่ยวกับกำหนดเวลาเริ่มต้นปฏิบัติหน้าที่ของแคนาดาและเม็กซิโก ทรัมป์ตอบว่าจะมีผลบังคับใช้วันที่ 2 เมษายน 2568
ฟรองซัวส์-ฟิลิปป์ แชมเปญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงนวัตกรรมของแคนาดา กล่าวว่า แคนาดาจะรอการลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารจากทรัมป์ก่อนที่จะดำเนินการใดๆ “ภารกิจของเราคือการหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร และขยายระยะเวลาการระงับหากจำเป็น…เราเตรียมพร้อมแล้ว หากทรัมป์กำหนดภาษีศุลกากร จะมีการตอบโต้อย่างมีเป้าหมายและมีกลยุทธ์ แต่เด็ดขาด”
กระทรวงเศรษฐกิจของเม็กซิโกปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อคำพูดของทรัมป์ แต่กล่าวว่า รัฐมนตรีเศรษฐกิจ มาร์เซโล เอบราร์จะพบกับจามีสัน กรีร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ คนใหม่ที่ได้รับการยืนยัน และ โฮเวิร์ด ลุตนิค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในวันศุกร์นี้
ทั้งนี้ทรัมป์ตั้งเป้าที่จะกำหนดอัตราภาษีศุลกากรแบบตอบแทนให้เท่ากับอัตราภาษีนำเข้าของประเทศอื่น ๆ และชดเชยข้อจำกัดอื่น ๆ ของประเทศเหล่านั้นในช่วงต้นเดือนเมษายน ที่ปรึกษาด้านการค้ามองว่า ภาษีมูลค่าเพิ่มของประเทศในยุโรปก็คล้ายกับภาษีศุลกากร โดยกล่าวว่าสหภาพยุโรปเป็นกรณีที่แตกต่างจากแคนาดา และใช้ประโยชน์จากสหรัฐในรูปแบบที่แตกต่างกัน
โฆษกคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวว่าสหภาพยุโรปจะตอบสนองอย่างหนักแน่นและทันทีต่ออุปสรรคที่ไม่มีเหตุผลต่อการค้าเสรีและเป็นธรรม รวมถึงภาษีศุลกากรที่ท้าทายกฎหมายและนโยบายที่ไม่เลือกปฏิบัติ สหภาพยุโรปเป็นตลาดเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นประโยชน์ต่อสหรัฐอเมริกา
ที่มา: reuters.com การเงินการธนาคาร