ข่าวสารการลงทุน

ผลศึกษาชี้นโยบายเศรษฐกิจ “ทรัมป์” ทำสหรัฐขาดดุลงบประมาณสูงกว่า “แฮร์ริส”

28 สิงหาคม 2567|15:04 น.

เพนน์ วอร์ตัน บัดเจต โมเดล (Penn Wharton Budget Model) ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด เปิดเผยผลการศึกษาฉบับล่าสุดว่า นโยบายเศรษฐกิจที่นำเสนอโดยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะส่งผลให้รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้น 5.8 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 10 ปีข้างหน้า ซึ่งสูงกว่านโยบายที่นำเสนอโดยรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส เกือบ 5 เท่า โดยนโยบายของแฮร์ริสจะทำให้รัฐบาลกลางขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านล้านดอลลาร์

          ผลการศึกษาดังกล่าวได้ทำการวิเคราะห์นโยบายเศรษฐกิจของทรัมป์ซึ่งพบว่า แผนการขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการปรับลดภาษีซึ่งกำหนดขึ้นในปี 2560 อย่างถาวรนั้น จะทำให้รัฐบาลขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้นกว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์ในอีก 10 ปีข้างหน้า ส่วนข้อเสนอของทรัมป์ในการยกเลิกภาษีผลประโยชน์ประกันสังคม จะทำให้รัฐบาลขาดดุลเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ และคำมั่นสัญญาของทรัมป์ที่จะปรับลดภาษีนิติบุคคลเพิ่มเติมนั้น จะทำให้รัฐบาลขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้นเกือบ 6 พันล้านดอลลาร์

          ส่วนการวิเคราะห์นโยบายเศรษฐกิจของแฮร์ริสแสดงให้เห็นว่า แผนการขยายเครดิตภาษีเด็กดูแลเด็ก (Child Tax Credit), เครดิตภาษีรายได้จากการทำงาน (Earned Income Tax Credit) และเครดิตภาษีอื่น ๆ จะทำให้รัฐบาลขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านล้านดอลลาร์ในอีก 10 ปีข้างหน้า และข้อเสนอของแฮร์ริสในการให้เงินอุดหนุนจำนวน 25,000 ดอลลาร์สำหรับผู้ซื้อบ้านหลังแรกทุกคนที่มีคุณสมบัตินั้น จะทำให้การขาดดุลเพิ่มขึ้น 1.40 แสนล้านดอลลาร์ในช่วง 10 ปีข้างหน้า

          แต่รายงานนโยบายของแฮร์ริสระบุว่า การปรับขึ้นอัตราภาษีนิติบุคคลเป็น 28% จากระดับปัจจุบันที่ 21% ตามที่เธอได้นำเสนอไว้นั้น อาจจะช่วยชดเชยต้นทุนการใช้จ่ายของรัฐบาลภายใต้การนำของเธอได้ถึง 1.1 ล้านล้านดอลลาร์

          นอกจากการปรับขึ้นภาษีนิติบุคคลแล้ว แฮร์ริสยังกล่าวว่าเธอสนับสนุนมาตรการเพิ่มรายได้มูลค่า 5 ล้านล้านดอลลาร์ที่อยู่ในข้อเสนองบประมาณของประธานาธิบดีโจ ไบเดน สำหรับปีงบประมาณ 2568

          สำนักข่าวซีเอ็นบีซี (CNBC) รายงานว่า ทีมหาเสียงของทรัมป์และแฮร์ริสกำลังแข่งขันกันสร้างภาพให้อีกฝ่ายดูเป็นภัยคุกคามทางเศรษฐกิจ และต่างก็พยายามที่จะชนะใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ได้รับผลกระทบจากภาวะค่าครองชีพสูง

          เจมส์ ซิงเกอร์ โฆษกทีมหาเสียงของแฮร์ริส กล่าวว่า “นโยบายเศรษฐกิจปี 2568 ของโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นการจุดชนวนให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อและการขาดดุลงบประมาณ ซึ่งจะทำให้ชนชั้นกลางต้องจ่ายภาษีมากขึ้นและคนรวยจ่ายภาษีน้อยลง”

          ขณะที่คาโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทีมหาเสียงของทรัมป์ได้ออกมากล่าวปกป้องทรัมป์ว่า “ปธน.ทรัมป์เป็นนักธุรกิจที่สร้างเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา และแน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องมานั่งฟังพวกเสรีนิยมสุดโต่งสอนเรื่องเศรษฐกิจ”

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์

แชร์บทความนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง

 
ตลาดหุ้น

ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 390.08 จุด หุ้นเทคโนฯหนุนตลาดต่อเนื่อง

08:33 น.

 
ตลาดทองคำ

ทองปิดบวก $7.30 นักลงทุนจับตาทิศทางดอกเบี้ยเฟด

08:30 น.

 
ตลาดหุ้น

ดาวโจนส์ปิดบวก 66.69 จุด หุ้นเทคโนโลยีพุ่งหนุนตลาด

08:18 น.

 
ตลาดทองคำ

ทองปิดลบ $16.90 บอนด์ยีลด์พุ่ง-ดอลล์แข็งทุบตลาด

08:16 น.

คำถามที่พบบ่อย

เกี่ยวกับเรา

พูดคุยกับเรา

พบเจอปัญหา หรือมีข้อสงสัย
ทักหาเราได้เลยที่นี่

เวลาทำการลูกค้าสัมพันธ์
จันทร์ - ศุกร์ 08.30 น. - 24.00 น.
เสาร์ - อาทิตย์ 08.30 น. - 17.30 น.

For the best experience, we recommend viewing the site in portrait orientation on mobile devices.

ตะกร้าสินค้า0
ไม่มีสินค้าในตะกร้า
เลือกซื้อสินค้าต่อ
This site is registered on wpml.org as a development site. Switch to a production site key to remove this banner.