แนวโน้มราคาทอง
ปรับตัวลงไม่มาก
- ทองฟื้นตัว หลังลงแรง
- จับตาเลือกตั้งสหรัฐในสัปดาห์หน้า
Gold spot
สูงสุด – 2,757 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,744 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 44,250 บาท
ต่ำสุด – 44,000 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำฟื้นตัว หลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวลงแรงเมื่อคืนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบลง ซึ่งนักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานสหรัฐคืนนี้ และปัจจัยที่สำคัญในสัปดาห์หน้า ได้แก่ การเลือกตั้งสหรัฐ และการประชุมเฟด แม้ผลโพลหลายสำนักจะชี้ให้เห็นถึงคะแนนของนายโดนัลด์ ทรัมป์ และกมลา แฮร์ริสจะค่อนข้างมีความสูสีอย่างมาก เป็นเรื่องที่คาดเดาได้ยากกว่าการเลือกตั้งสหรัฐในครั้ง ๆ ก่อน แต่เว็บไซด์พนันหลายแห่งได้เปิดเผยผลสำรวจออกมา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงโอกาสที่ทรัมป์จะมีชัยชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ โดยโดนัลด์ ทรัมป์มีคะแนนนำเหนือกมลา แฮร์ริสไปอย่างมาก
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 106,000 ตำแหน่งจากที่เพิ่มขึ้น 254,000 ตำแหน่ง นอกจากนี้สหรัฐจะเปิดเผยอัตราการว่างงานเดือนต.ค. ค่าจ้างเฉลี่ยต่อชั่วโมงเดือนต.ค. และดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนต.ค.โดย ISM
วิเคราะห์ราคาทอง
แม้ราคาทองคำจะเริ่มเคลื่อนไหวในกรอบแคบลง และสัญญาณเทคนิคจาก MACD เกิด Bearish MACD รวมถึงเกิด Sell Signal จาก Modified Stochastic ซึ่งบ่งชี้เกิดสัญญาณขาย โดยราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลงระยะสั้น อย่างไรก็ตาม คาดว่าราคาทองคำปรับตัวลงไม่มากนัก เป็นการย่อเพื่อปรับตัวขึ้นได้ต่อ
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 2,730 และ 2,720 ดอลลาร์
แนวต้าน 2,760 และ 2,770 ดอลลาร์
ราคาทองคำเริ่มเกิดสัญญาณขาย สำหรับคนเก็งกำไรระยะสั้น แนะนำให้ขายทำกำไรบางส่วนไปก่อน และรอเข้าซื้อบริเวณ 2,730 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,720 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 44,000 และ 43,900 บาท
แนวต้าน : 44,300 และ 44,400 บาท
คาดว่าราคาทองคำแท่งมีแนวโน้มปรับตัวลง แต่อาจไม่มากนัก ทั้งนี้นักลงทุนเริ่มจับตาปัจจัยในสัปดาห์หน้า ทั้งการเลือกตั้งสหรัฐและการประชุมเฟด จึงอาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำแท่งที่แคบลง แนะนำหากเก็งกำไรระยะสั้นสามารถขายทำกำไรบางส่วนไปก่อน แล้วรอเข้าซื้อรอบใหม่