แนวโน้มราคาทอง
แรงเทขาย
- ทองคำปรับตัวลงเล็กน้อย
- อิหร่านชี้การตอบโต้อิสราเอลสิ้นสุดลง
Gold spot
สูงสุด – 2,663 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,644 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 41,050 บาท
ต่ำสุด – 40,950 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำปรับตัวลงเล็กน้อย หลังที่ราคาทองคำดีดตัวขึ้นแรงจากความตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังอิหร่านโจมตีอิสราเอล ซึ่งสถานการณ์ในตะวันออกกลางยังคงต้องติดตามต่อไป แม้ว่าอิหร่านชี้ว่าการตอบโต้อิสราเอลสิ้นสุดลงแล้ว ทำให้นักลงทุนผ่อนคลายความกังวลลงเล็กน้อย แต่อิหร่านก็ได้ขู่ว่าจะโจมตีหนักขึ้นหากถูกล้างแค้น ซึ่งอิสราเอลยืนยันจะตอบโต้การโจมตีด้วยขีปนาวุธจากอิร่าน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีความตึงเครียดมากขึ้นในตะวันออกกลาง แต่ Geopolitical Risk (GPR) Index ยังมีค่าไม่สูงมากนัก ซึ่งเมื่อเทียบกับข้อมูลในอดีตที่ผ่านมาของช่วงสงครามรัสเซีย-ยูเครนพึ่งเริ่มต้น ค่า GPR index สูงกว่ามาก ความกังวลต่อความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจึงยังไม่สูงมากนัก
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยการจ้างงานภาคเอกชนทั่วประเทศเดือนก.ย. ของ ADP ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 124,000 ตำแหน่ง จากที่เพิ่มขึ้น 99,000 ตำแหน่ง
วิเคราะห์ราคาทอง
เมื่อสถานการณ์ในตะวันออกกลางผ่อนคลายลงไปบ้าง อาจมีแรงขายทำกำไรออกมาบางส่วน ทำให้ราคาทองคำอาจปรับตัวลงในระยะสั้น เนื่องจากสัญญาณทางเทคนิคของราคาทองคำจาก Modified Stochastic ใน Timeframe Day เกิดเส้นตัดกันลงมา แต่คาดว่าอาจปรับตัวลงไม่มาก โดยมีแนวรับ 2,640-2,645 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 2,640 และ 2,630 ดอลลาร์
แนวต้าน 2,665 และ 2,670 ดอลลาร์
หากราคาทองคำย่อตัวลง แนะนำเข้าซื้อบริเวณ 2,640 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,630 ดอลลาร์ หรือเปิดสถานะขายบริเวณ 2,670 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,675 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 40,850 และ 40,700 บาท
แนวต้าน : 41,100 และ 41,200 บาท
ค่าเงินบาทอ่อนค่าหนุนราคาทองคำแท่งให้ปรับตัวขึ้นแตะ 41,000 บาทอีกครั้ง ซึ่งเงินบาทอ่อนค่าจากดอลลาร์แข็งค่า ทั้งนี้ราคาทองคำแท่งสามารถยืนเหนือ SMA100 และ SMA200 ได้อีกครั้ง ทำให้ระยะสั้นราคาทองคำแท่งอาจปรับตัวขึ้นได้ต่อ แต่คาดว่าอาจไม่มากนัก แนะนำขายทำกำไร สำหรับคนเก็งกำไรระยะสั้น