แนวโน้มราคาทอง
ปรับตัวลง
- ทองคำเคลื่อนไหว Sideways
- นักลงทุนรอข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ
Gold spot
สูงสุด – 2,662 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,643 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 41,500 บาท
ต่ำสุด – 41,300 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำเคลื่อนไหว Sideways ในกรอบแคบ เนื่องจากนักลงทุนรอข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐเพิ่มเติม เพื่อประเมินการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดในปลายปีนี้ ซึ่งล่าสุดนักลงทุนปรับมุมมองคาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนพ.ย. อย่างไรก็ตาม ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง และการเลือกตั้งสหรัฐยังเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำระยะยาว ซึ่งล่าสุดแม้ว่าอิหร่านไม่ต้องการทำสงคราม แต่จะตอบโต้หากถูกอิสราเอลโจมตี ขณะที่อิสราเอลได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศในใจกลางกรุงเบรุตของเลบานอนในช่วงเช้าวันนี้
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4,000 รายสู่ระดับ 222,000 ราย ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนก.ย. โดย ISM ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 51.7 จาก 51.5 ในเดือนส.ค. และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนส.ค. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% จากเพิ่มขึ้น 5.0% ในเดือนก.ค.
วิเคราะห์ราคาทอง
ระยะสั้นราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลง หลังจากสัญญาณทางเทคนิคทั้ง MACD และ Modified Stochastic ของราคาทองคำใน Timeframe 60 นาที เกิดเส้นตัดกันลงมา โดยราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวลงสู่ระดับ 2,640 ดอลลาร์ และแนวรับต่อไปที่ 2,630 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 2,640 และ 2,630 ดอลลาร์
แนวต้าน 2,660 และ 2,670 ดอลลาร์
ระยะสั้นราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลง หากเก็งกำไรระยะสั้น สามารถเปิดสถานะขายบริเวณ 2,660 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,670 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 41,200 และ 41,100 บาท
แนวต้าน : 41,500 และ 41,600 บาท
ราคาทองคำแท่งปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง จากอานิสงส์ค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่องแตะ 33 บาท จากดอลลาร์แข็งค่า และนักลงทุนต่างชาติขายสินทรัพย์ไทย ซึ่งคาดว่าแนวโน้มเงินบาทอาจยังอ่อนค่า ซึ่งยัง
หนุนราคาทองคำแท่งให้ปรับตัวขึ้นได้ต่อในระยะสั้น แนะนำ Let Profit Run