แนวโน้มราคาทอง
ปรับตัวลง
- ราคาทองคำทรงตัว
- จับตานโยบายภาษีนำเข้าของทรัมป์
Gold spot
สูงสุด – 2,824 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,807 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 45,200 บาท
ต่ำสุด – 45,100 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบ นักลงทุนจับตานโยบายภาษีนำเข้าสินค้าของทรัมป์ที่มีความไม่แน่นอน โดยทรัมป์ประกาศชะลอแผนการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดา 25% ออกไปอีก 1 เดือน ขณะที่จีนโต้กลับสหรัฐประกาศเก็บภาษีนำเข้าถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลวจากสหรัฐในอัตรา 15% และเรียกเก็บภาษีนำเข้าน้ำมันดิบ อุปกรณ์ด้านการเกษตร และรถยนต์บางประเภทในอัตรา 10% โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.นี้ อย่างไรก็ตามทรัมป์จะพูดคุยกับสี จิ้นผิงอย่างเร็วสุดในสัปดาห์นี้
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐฯ จะเปิดเผยจำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัคร ตลาดคาดว่าจะลดลงสู่ 8.01 ล้านตำแหน่ง จาก 8.10 ล้านตำแหน่ง และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนธ.ค. ตลาดคาดว่าจะลดลง 0.7% จากที่ลดลง 0.4% ในเดือนพ.ย.
วิเคราะห์ราคาทอง
คาดว่าระยะสั้นราคาทองคำอาจปรับตัวลง เนื่องจากสัญญาณทางเทคนิคใน Timeframe 60-120 นาทีส่งสัญญาณการปรับตัวลง คาดว่ามีโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวลงสู่ระดับ 2,800 ดอลลาร์ หากสามารถหลุดแนวรับ 2,800 ดอลลาร์ได้ อาจมีแรงเทขายออกมาอีกรอบ อย่างไรก็ตามช่วงนี้ราคาทองคำค่อนข้างมีความผันผวนอย่างมาก
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 2,800 และ 2,790 ดอลลาร์
แนวต้าน 2,830 และ 2,840 ดอลลาร์
แนะนำทยอยขายทำกำไร อย่างไรก็ตามหากมีการเข้าซื้อในระยะนี้ ให้เน้นเข้าเร็วออกเร็ว โดยสามารถเข้าซื้อเมื่อราคาทองคำย่อตัวลงมาบริเวณ 2,800 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,790 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 44,950 และ 44,800 บาท
แนวต้าน : 45,200 และ 45,300 บาท
ราคาทองคำแท่งปรับตัวขึ้นทำ All-Time high ที่ 45,200 บาท จากความกังวลสงครามการค้ารอบใหม่ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายภาษีนำเข้าของทรัมป์ ทั้งนี้ให้ระวังการเข้าซื้อ เน้นการเข้าออกเร็ว หรือรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาทองคำแท่งย่อตัวลงมา