แนวโน้มราคาทอง
ย่อตัวลงเพื่อปรับตัวขึ้นต่อ
- ทรัมป์จ่อชนะการเลือกตั้งสหรัฐ
- สหรัฐเสี่ยงหนี้สาธารณะสูงขึ้น
Gold spot
สูงสุด – 2,749 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,701 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 44,150 บาท
ต่ำสุด – 43,750 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ช่วงเช้าราคาทองคำโลกเคลื่อนไหวในกรอบแคบ แต่เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมากกว่า 1.79% ในวันเดียว หลังทรัมป์มีคะแนนนำทิ้งห่างแฮร์ริสอย่างมาก ซึ่งนโยบายของทรัมป์เกี่ยวกับการลดภาษีและการกระตุ้นเศรษฐกิจ การลงทุนภายในประเทศ มาตรการการค้าข้ามประเทศที่เข้มงวด ที่อาจทำให้ดอลลาร์แข็งค่า เงินบาทจึงอ่อนค่าดันราคาทองคำแท่งในประเทศพุ่งขึ้นแตะ 44,000 บาท อย่างไรก็ตามช่วงบ่ายราคาทองคำร่วงลง ภายหลังคะแนนของแฮร์ริสเริ่มตีตื้นกลับมา แต่ก็มีแรงซื้อทองคำกลับเข้ามา ซึ่งณ ขณะนี้นายโดนัลด์ ทรัมป์มีโอกาสชนะการเลือกตั้งสหรัฐ โดยนโยบายของทรัมป์มีความเสี่ยงต่อหนี้สาธารณะสหรัฐสูง เงินเฟ้อสูง สงครามการค้ารุนแรง ซึ่งหนุนต่อราคาทองคำในระยะยาว
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
วันนี้ติดตามผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองคำผันผวนในช่วงบ่าย หลังจากมีแรงเทขายออกมา แต่ก็มีแรงซื้อกลับเข้ามา ซึ่งคาดว่าบริเวณแนวรับ 2,686-2,700 ดอลลาร์ จะเป็นแนวรับสำคัญที่สามารถรับได้อยู่ในระยะสั้น แม้ภาพรวมของสัญญาณทางเทคนิคของราคาทองคำระยะสั้นจะบ่งชี้การปรับตัวลง แต่คาดว่าเป็นการย่อตัวลงมาเพื่อปรับตัวขึ้นได้ต่อ
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 2,700 และ 2,686 ดอลลาร์
แนวต้าน 2,740 และ 2,750 ดอลลาร์
สามารถเปิด Long position บริเวณ 2,700 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,686 ดอลลาร์ หรือเปิด Short position บริเวณ 2,740 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,750 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 43,750 และ 43,600 บาท
แนวต้าน : 44,100 และ 44,150 บาท
ค่าเงินบาทอ่อนค่ามากเหนือ 34 บาท หนุนราคาทองคำแท่งพุ่งขึ้นเหนือ 44,000 บาทอีกครั้ง ทั้งนี้นโยบายของทรัมป์อาจหนุนค่าเงินบาทอ่อนค่า โดยราคาทองคำแท่งยังคงมีทิศทางขาขึ้นในระยะยาว แนะนำทยอยสะสมเข้าซื้อทองคำบริเวณ 43,750-43,800 บาท