แนวโน้มราคาทอง
ทะลุ 2,650 ได้อาจขึ้นต่อ
- ราคาทองคำปรับตัวขึ้นเล็กน้อย
- เงินดอลลาร์สหรัฐฯ กลับมาอ่อนค่า
Gold spot
สูงสุด – 2,646 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,632 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 43,250 บาท
ต่ำสุด – 43,100 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดยได้รับแรงหนุนจากเงินดอลลาร์อ่อนค่า หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ มีแผนที่จะผ่อนคลายนโยบายการตั้งกำแพงภาษีนำเข้าสินค้า รวมถึงมีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย จากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองสหรัฐ ซึ่งทรัมป์เรียกร้องให้พรรครีพับลิกันในสภาคองเกรสรวบรวมเป้าหมายสำคัญต่าง ๆ ไว้ในร่างกฎหมายขนาดใหญ่ฉบับเดียว ซึ่งรวมถึงการลดภาษี, การเสริมสร้างความปลอดภัยชายแดน และเพิ่มการผลิตพลังงานภายในประเทศ แต่สมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรสยังคงมีความเห็นแตกต่างกัน และมีความเป็นไปได้ที่จะประสบความล้มเหลว
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐฯ จะเปิดเผยดัชนี PMI ภาคบริการเดือนธ.ค. โดย ISM ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 53.5 จาก 52.1 ในเดือนพ.ย. และจำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัคร ตลาดคาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 7.73 ล้านตำแหน่ง จาก 7.74 ล้านตำแหน่ง
วิเคราะห์ราคาทอง
แม้ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้น แต่ก็ยังอยู่ในกรอบจำกัด หากว่าราคาทองคำสามารถทะลุบริเวณแนวต้านของเส้น SMA50 หรือแถวบริเวณ 2,647-2,650 ดอลลาร์ขึ้นไปได้ อาจทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้ต่อ ซึ่งยังคงต้องจับตาบริเวณดังกล่าว
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 2,630 และ 2,620 ดอลลาร์
แนวต้าน 2,650 และ 2,660 ดอลลาร์
จับตาบริเวณแนวต้าน 2,647-2,650 ดอลลาร์ หากว่าราคาทองคำสามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ อาจปรับตัวขึ้นได้ต่อ ให้ Follow ตาม หรือเปิดสถานะซื้อบริเวณ 2,630 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,620 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 43,000 และ 42,900 บาท
แนวต้าน : 43,250 และ 43,350 บาท
ราคาทองคำแท่งยังคงเคลื่อนไหวใกล้เส้น SMA50 หากยังยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้สักระยะหนึ่ง อาจทำให้ราคาทองคำแท่งมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้ต่อ ขณะที่สัญญาณทางเทคนิคจาก MACD ยังคงเกิด Bullish MACD แนะนำ Let Profit Run