แนวโน้มราคาทอง
ปรับตัวลง
- ทองถูกกดดันจากดอลลาร์แข็งค่า
- เศรษฐกิจจีนยังน่ากังวล
Gold spot
สูงสุด – 2,686 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,666 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 43,450 บาท
ต่ำสุด – 43,350 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำปรับตัวลงต่อเนื่อง ซึ่งราคาทองคำยังถูกกดดันจากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง จากที่นักลงทุนประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ รวมถึงราคาทองคำขาดปัจจัยหนุนจาก Demand ทองคำจากจีนอาจชะลอตัวลง จากการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีน แม้จีนจะเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ถดถอยก็ตาม ทั้งนี้ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนต.ค.ของจีนได้เพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบ 4 เดือน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐฯ ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ
วิเคราะห์ราคาทอง
แนวโน้มราคาทองคำยังคงปรับตัวลงได้ต่อ จากสัญญาณทางเทคนิคจาก Modified Stochastic ยังเกิดเส้นตัดกันลงมา และยังไม่เข้าสู่ Oversold ซึ่งคาดว่าราคาทองคำมีโอกาสจะปรับตัวลงทดสอบแนวรับสำคัญที่ 2,640-2,645 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแนวรับเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 2,640 และ 2,630 ดอลลาร์
แนวต้าน 2,690 และ 2,710 ดอลลาร์
หากเปิดสถานะขายไว้ให้ ขายทำกำไรบริเวณ 2,640 ดอลลาร์ และจับตาบริเวณแนวรับดังกล่าว หากสามารถยืนเหนือได้ ให้เข้าซื้อบริเวณ 2,640 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,630 ดอลลาร์ แต่หากหลุดแนวรับดังกล่าว ให้เปิดสถานะขายบริเวณดังกล่าว เนื่องจากราคาทองคำอาจปรับตัวลงแรง
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 43,200 และ 43,000 บาท
แนวต้าน : 43,600 และ 43,700 บาท
คาดราคาทองคำแท่งยังคงมีแนวโน้มปรับตัวลง แต่อาจปรับตัวลงไม่มากนัก จับตาบริเวณแนวรับ 43,200 บาท และแนวรับ 43,000 บาท หากยืนเหนือได้อาจมีการฟื้นตัวระยะสั้น แนะนำ Wait & See และรอจังหวะเข้าซื้อทองคำแท่งบริเวณแนวรับดังกล่าว