แนวโน้มราคาทอง
2,430-2,478 ดอลลาร์
- ทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบ
- ติดตามการเจรจาหยุดยิงในฉนวนกาซา
Gold spot
สูงสุด – 2,459 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,450 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 40,800 บาท
ต่ำสุด – 40,750 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบ นักลงทุนรอการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐคืนนี้ โดยเฉพาะดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.ของม.มิชิแกน (เบื้องต้น) รวมถึง การประชุม jackson hole ในสัปดาห์หน้า เพื่อหาสัญญาณขนาดการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดที่อาจจะเกิดขึ้นในการประชุมเดือนก.ย. นอกจากนี้ทองคำยังได้รับปัจจัยหนุนจากความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ขณะที่การเจรจาหยุดยิงในฉนวนกาซาดำเนินต่อไป ซึ่งก่อนหน้านี้อิหร่านได้เผยว่ามีเพียงข้อตกลงหยุดยิงในฉนวกกาซาเท่านั้นที่จะยับยั้งไม่ให้อิหร่านโจมตีอิสราเอล และอิหร่านจะโจมตีโดยตรงในกรณีการเจรจาหยุดยิงล้มเหลว
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยการอนุญาตก่อสร้างบ้านเดือนก.ค. และการเริ่มก่อสร้างบ้านเดือนก.ค. ตลาดคาดว่าจะลดลงสู่ 1.43 ล้านยูนิต และ 1.34 ล้านยูนิต ตามลำดับ นอกจากนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.ของม.มิชิแกน (เบื้องต้น) ตลาดคาดว่าเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 66.7 จาก 66.4 ในเดือนก.ค.
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองคำยังเคลื่อนไหวใกล้ Head ของรูปแบบ Triple top ขณะที่แรงส่ง (Momentum) เริ่มลดลง แต่ indicator จาก Modified Stochastic ยังไม่เกิดเส้นตัดกันลงมา หรือสัญญาณขาย (Sell signal ) ทั้งนี้คาดว่าราคาทองคำอาจยังเคลื่อนไหว Sideways ระหว่าง 2,430-2,478 ดอลลาร์ และให้ระวังแรงขายเมื่อเข้าใกล้ All-Time High
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 2,440 และ 2,430 ดอลลาร์
แนวต้าน 2,470 และ 2,478 ดอลลาร์
ขายทำกำไรเมื่อราคาทองคำปรับตัวขึ้นเข้าใกล้ที่ All-Time High แล้วเปิด Long Position ใหม่บริเวณ 2,420-2,430 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,415 ดอลลาร์ แต่ถ้าหลุด 2,420 ดอลลาร์ ให้ Short Position
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 40,700 และ 40,600 บาท
แนวต้าน : 40,900 และ 41,000 บาท
ราคาทองคำแท่งปรับขึ้นเพียงเล็กน้อย จากแรงหนุนเงินบาทอ่อนค่า หลังดอลลาร์แข็งค่ามาก แต่เงินบาทอ่อนค่าไม่มากเนื่องจากคลายความกังวลเกี่ยวกับการเมืองไทยไปบ้าง แนะนำขายทำกำไรบางส่วน สำหรับเข้าซื้อทองคำแท่งให้ Wait & See