แนวโน้มราคาทอง
Sideways up
- ทองคำปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ All-Time High
Gold spot
สูงสุด – 2,474 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,457 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 42,000 บาท
ต่ำสุด – 41,900 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำปรับตัวขึ้น ซึ่งโอกาสที่เฟดลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย. เป็นแรงหนุนต่อราคาทองคำ ทั้งนี้ทองคำยังคงมีทิศทางสดใสในช่วงครึ่งปีหลัง จากปัจจัยดอกเบี้ยขาลงและการเลือกตั้งสหรัฐ หากนายโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง และอาจทำให้เกิด Trade war โดยเฉพาะสหรัฐและจีน ซึ่งจะทำให้เงินเฟ้อกลับมาพุ่งขึ้น รวมถึงความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และผลกระทบทางเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งทองคำเป็น Safe Haven และเป็นสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อ ทั้งนี้โกลด์แมนแซคส์ได้เตือนว่า หากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอีกครั้ง จะส่งผลให้เศรษฐกิจจีนมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะขาลง
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป ตลาดคาดว่าจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิม ส่วนสหรัฐจะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนก.ค. และดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจเดือนมิ.ย. โดย Conference Board
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองคำเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาอีกครั้ง หลังจากย่อตัวลงเล็กน้อยระยะสั้น ขณะที่ indicator กลับมาดูดีขึ้น ซึ่งสัญญาณทางเทคนิคจาก Modified Stochastic ใน Timeframe 120-240 นาที มีการตัดกันขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งนี้คาดว่าราคาทองคำอาจเคลื่อนไหว Sideways up
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 2,450 และ 2,440 ดอลลาร์
แนวต้าน 2,480 และ 2,500 ดอลลาร์
หากเปิดสถานะซื้อไว้ แนะนำ Let Profits Run และสามารถเข้าซื้อเมื่อราคาทองคำปรับตัวลงมาบริเวณแนวรับ 2,450 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,440 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 41,800 และ 41,700 บาท
แนวต้าน : 42,150 และ 42,200 บาท
ราคาทองคำแท่งเปิดตลาดปรับตัวลงจากเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม มีแรงซื้อกลับเข้ามาทำให้ราคาทองคำแท่งแตะ 42,000 บาทอีกครั้ง แนะนำอาจขายทำกำไรออกมาบางส่วน และยังถือต่อไปบางส่วน ขณะที่สามารถเข้าซื้อรอบใหม่บริเวณ 41,500 บาท
