แนวโน้มราคาทอง
แนวรับ 2,478 – 2,483
- ทองคำเคลื่อนไหวใกล้ All-Time High
- ทองคำโลกทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 2,509
Gold spot
สูงสุด – 2,509 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,495 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 40,850 บาท
ต่ำสุด – 40,800 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำเคลื่อนไหวใกล้ระดับ All-Time High บริเวณแถว 2,500 ดอลลาร์ หลังจากเมื่อวันศุกร์ราคาทองคำโลกทำ All-Time High ใหม่ที่ 2,509 ดอลลาร์ จากนักลงทุนมั่นใจว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย. และแรงซื้อทองคำ จากสถานการณ์ในตะวันออกกลางและในยูเครน ทั้งนี้นักลงทุนรอติดตามการประชุม Jackson hole ในระหว่างวันที่ 22-24 ส.ค. โดยนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะกล่าวสุนทรพจน์ในวันศุกร์ที่ 23 ส.ค. เวลา 10.00 น. ตามเวลาสหรัฐ ซึ่งประธานเฟดอาจแสดงความเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ และมีแนวโน้มที่จะประกาศแผนสำหรับการปรับลดดอกเบี้ยเริ่มตั้งแต่เดือนก.ย.
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจเดือนก.ค. โดย conference Board ตลาดคาดว่าจะลดลง 0.4% จากที่ลดลง 0.2% ในเดือนมิ.ย.
วิเคราะห์ราคาทอง
เกิดแรงเทขายทำกำไรออกมา แต่แรงเทขายไม่มากเท่าไหร่นัก ทั้งนี้ทองคำยังคงมีแรงซื้อที่แข็งแกร่ง จากรูปแบบ Price Pattern ยังบ่งชี้การปรับตัวขึ้น ประกอบกับ indicator จาก Modified Stochastic ยังไม่เกิดสัญญาณขาย (Sell signal ) ทั้งนี้หากแรงเทขายยังไม่ต่ำกว่าแนวรับสำคัญบริเวณ 2,478-2,483 ดอลลาร์ ราคาทองคำอาจมีแนวโน้มปรับขึ้นได้ต่อ
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 2,478 และ 2,470 ดอลลาร์
แนวต้าน 2,510 และ 2,520 ดอลลาร์
สำหรับคนที่เปิด Long Position ไว้ให้ถือต่อไป (Let Profit Run) และติดตามสัญญาณจาก indicator ให้เกิดสัญญาณขายก่อนที่จะขายทำกำไร ส่วนการเข้าซื้อรอบใหม่ แนะนำเปิด Long Position บริเวณ 2,470-2,478 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,465 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 40,700 และ 40,600 บาท
แนวต้าน : 40,900 และ 41,000 บาท
เงินบาทแข็งค่ามาก กดดันราคาทองคำแท่งในประเทศ จากความชัดเจนมากขึ้นในการเมืองไทย และวันนี้สภาพัฒน์แถลง GDP ไตรมาส 2/67 โต 2.3% เร่งขึ้นจาก 1.6% ในไตรมาส 1/67 ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง ทำให้ราคาทองคำแท่งทรงตัว สำหรับเข้าซื้อทองคำแท่งให้ Wait & See