แนวโน้มตลาดทองคำ
ปรับลงสู่ 2,350
- ทองคำปรับลงต่อเนื่อง
- เฟดอาจตรีงดอกเบี้ยสูงนาน
Gold spot
สูงสุด – 2,383 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,355 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 41,100 บาท
ต่ำสุด – 40,850 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำปรับตัวลงต่อเนื่อง ภายหลังการเปิดเผยรายงานการประชุมเฟด ที่ส่งสัญญาณว่ามีแนวโน้มที่เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยสูงนานขึ้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่เฟดยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ ซึ่งตลาดมีการปรับเปลี่ยนการคาดการณ์ว่าเฟดจะมีการลดดอกเบี้ยในปีนี้เพียง 1 ครั้ง และจะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเฟดเดือนก.ย. จากเดิมที่ตลาดคาดว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยปีนี้ 2 ครั้ง ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่าเฟดจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญหลายตัว ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนพ.ค. และยอดขายบ้านใหม่เดือนเม.ย.
วิเคราะห์ราคาทอง
สัญญาณจาก Modified Stochastic มีการตัดเส้นลงมา ซึ่งเกิดสัญญาณขาย ด้าน MACD น้อยกว่า Signal line บ่งชี้การปรับตัวลงระยะสั้น คาดว่าราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวลงสู่ระดับ 2,350 ดอลลาร์ โดยมีแนวรับสำคัญที่ 2,350 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 2,350 และ 2,340 ดอลลาร์
แนวต้าน 2,386 และ 2,400 ดอลลาร์
คาดราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลง หากเปิดสถานะขายไว้ และเก็งกำไรระยะสั้น สามารถปิดสถานะทำกำไรบริเวณ 2,350 ดอลลาร์ ทั้งนี้ หากราคาทองคำยืนเหนือ 2,350 ดอลลาร์ได้ ให้เข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรสั้น ๆ บริเวณ 2,350 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,340 ดอลลาร์ และ Take profit ที่ 2,380-2,386 ดอลลาร์ หรือรอราคาทองคำดีดขึ้นไปที่ 2,380-2,386 ดอลลาร์ แล้วเปิดสถานะขาย โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,390 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ 40,750 และ 40,600 บาท
แนวต้าน 41,000 และ 41,100 บาท
สัญญาณทางเทคนิคของราคาทองคำแท่งมีแนวโน้มปรับตัวลง หลังจากเกิดรูปแบบคล้ายตัว M (Double Top) ระยะสั้นคาดว่าราคาทองคำแท่งอาจปรับตัวลง หากรอเข้าซื้อทองคำแท่งเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น สามารถเข้าซื้อบริเวณ 39,950-40,000 บาท