แนวโน้มราคาทอง
พักฐานสั้นๆ ก่อนขึ้นต่อ
- ทองคำทำ All-time high ต่อเนื่อง
- ปัจจัยบวกจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจีน และความตึงเครียดในตะวันออกกลาง
Gold spot
สูงสุด – 2,670 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,651 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 41,100 บาท
ต่ำสุด – 41,000 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ช่วงเช้าราคาทองคำโลกเดินหน้าทำ All-time high ต่อเนื่อง จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอลง และปัญหาทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจจากจีนที่ประกาศออกมาในช่วงต้นสัปดาห์ โดยช่วงบ่ายวันนี้ มีข่าวว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB Governing Council) อาจมีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องไปจนถึงกลางปีหน้าเป็นอย่างน้อย จนอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมาอยู่ที่ระดับ 2%-3% แต่ดูเหมือนตลาดไม่ได้ให้ความน้ำหนักกับข่าว ECB นี้เท่าไหร่นัก
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผย ยอดขายบ้านใหม่ เดือน สิงหาคม ซึ่งคาดว่าจะปรับลดลงจากครั้งก่อนพอสมควร
วิเคราะห์ราคาทอง
หลังราคาทองทำจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 2,670 $ ต้องเผชิญแรงขายอีกครั้ง ในระยะสั้นราคาทองโลกอาจปรับตัวสู่แนวรับที่ 2,650 $ อีกครั้ง ซึ่งราคาทองโลกอาจฟื้นตัวจากแนวรับสำคัญดังกล่าวได้
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 2,650 และ 2,635 ดอลลาร์
แนวต้าน 2,670 และ 2,685 ดอลลาร์
แนวโน้มยังคงผันผวน โดยในช่วงเช้าราคา สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้ แต่ยังคงต้องเผชิญกับแรงขายเป็นระยะ ประเมินว่าเป็นเพียงการพักฐานในระยะสั้น และแนะนำรอเข้าซื้อบริเวณแนวรับที่ 2,650 $ โดยมีเป้าหมายทำกำไรที่ 2,670 $ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเดิม และตัดขาดทุนหากหลุดระดับ 2,635 $
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 40,950 และ 40,850 บาท
แนวต้าน : 41,400 และ 41,500 บาท
จากกราฟจะเห็นได้ว่าราคาทองคำแท่ง ค่อยๆฟื้นตัวขึ้นมาจากบริเวณแนวรับที่ 40,000 บาท โดยมีแนวต้านสำคัญอยู่ที่ระดับ 41,000 บาท ซึ่งราคาสามารถทะลุขึ้นมาแล้ว แต่ระยะสั้นยังประเมินว่าอาจเผชิญแรงขาย จึงแนะนำใช้กลยุทธ์เชิงรับในการเข้าซื้อสะสม โดยแนะนำรอเข้าซื้อที่ 40,950 บาท โดยมีเป้าหมายทำกำไรที่ 41,400 บาท และตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับที่ 40,850 บาท