แนวโน้มราคาทอง
เกิด Bearish MACD
- ทองคำฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย
- เจ้าหน้าที่เฟดย้ำลดดอกเบี้ย
Gold spot
สูงสุด – 2,521 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,502 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 40,500 บาท
ต่ำสุด – 40,500 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นแตะแนวต้าน 2,520 ดอลลาร์ แม้เงินดอลลาร์จะแข็งค่า ซึ่งประธานเฟดสาขาแอตแลนตาได้เน้นย้ำความเห็น “พาวเวล” ถึงเวลาที่เฟดต้องลดอัตราดอกเบี้ย จากอัตราเงินเฟ้อลดลง และอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตามราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นไม่มาก และยังเผชิญต่อแรงเทขายทำกำไรออกมาเล็กน้อย โดยหลักๆนักลงทุนรอดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานเดือนก.ค. ในคืนวันพรุ่งนี้
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยจีดีพีไตรมาส 2 (ประมาณการครั้งที่ 2) ตลาดคาดว่าจะขยายตัว 2.8% จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตลาดคาดว่าจะทรงตัวที่ 232,000 ราย และยอดทำสัญญาขายบ้านรอปิดการขายเดือนก.ค.
วิเคราะห์ราคาทอง
แม้ว่าราคาทองคำฟื้นตัว แต่ก็ยังคงมีสัญญาณ Bearish Divergence มาสักระยะหนึ่ง จึงยังคงให้ระมัดระวังการเข้าซื้อ นอกจากนี้ สัญญาณเทคนิคจาก MACD เกิด Bearish MACD จึงยังคงให้ระมัดระวังแรงขาย โดยทองคำมีแนวรับสำคัญที่ 2,495-2,500 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 2,500 และ 2,490 ดอลลาร์
แนวต้าน 2,525 และ 2,530 ดอลลาร์
สำหรับคนเปิด Long position ไว้ในการเก็งกำไรระยะสั้นให้ขายทำกำไรบริเวณ 2,525-2,530 ดอลลาร์ ทั้งนี้หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านบริเวณแนวต้าน 2,525-2,530 ดอลลาร์ได้ให้เปิด Short position โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,535 ดอลลาร์ และ take profit สั้นๆที่ 2,495-2,500 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตามหากหลุด 2,495-2,500 ดอลลาร์ เปิด Short position ได้ต่อ
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 40,400 และ 40,300 บาท
แนวต้าน : 40,600 และ 40,650 บาท
ระยะนี้ราคาทองคำแท่งปรับตัวขึ้นหรือลงไม่มากนัก แม้ราคาทองคำโลกจะปรับตัวขึ้น แต่ก็ถูกกดดันจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้แนวโน้มราคาทองคำแท่งยังคงมีทิศทางปรับตัวลงได้ จากสัญญาณทางเทคนิคจาก Modified Stochastic บ่งชี้การปรับตัวลง รวมถึงสัญญาณทางเทคนิคจาก MACD เกิด Bearish MACD แนะนำ Wait & See