เตือนภัยมิจฉาชีพ

แถลงการณ์โดยคุณธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทฮั่วเซ่งเฮง

ระวังมิจฉาชีพ ชักชวนลงทุนทองคำ หลอกลวงเรื่องผลตอบแทน

ปัจจุบันพบว่ามีมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นฮั่วเซ่งเฮง หลอกลวงประชาชนให้ลงทุนทองคำ
โดยการนำเครื่องหมายการค้าและภาพผู้บริหารของฮั่วเซ่งเฮง
หรือภาพของบุคคลมีชื่อเสียงด้านการลงทุนไปใช้ในการแอบอ้าง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

ทั้งยังพบว่ามีเพจปลอมและการปลอมแปลงบัญชีที่แอบอ้างเป็นฮั่วเซ่งเฮง
กำลังระบาดอย่างหนักในโซเชียลมีเดีย
โดยท่านสามารถตรวจสอบได้ง่าย ๆ ด้วยวิธีการสังเกตดังต่อไปนี้

วิธีการสังเกตมิจฉาชีพ หลอกลงทุนออนไลน์

1. ชักนำให้หลงเชื่อ ด้วยการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน มิจฉาชีพมักแอบอ้างด้วยการนำเครื่องหมายการค้าและ
ภาพผู้บริหารของฮั่วเซ่งเฮง หรือผู้มีชื่อเสียงในสังคม ทั้งศิลปิน ดารา ตลอดจนสมาคมค้าทองคำ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนมาใช้เป็นภาพประกอบโฆษณาบนสื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อหลอกลวงให้หลงเชื่อ 

2. ชักชวนให้ลงทุนในรูปแบบของหุ้นทองคำ ฮั่วเซ่งเฮง ไม่มีการเปิดให้ลงทุนซื้อ-ขายหุ้น

3. ชักจูงด้วยการการันตีเงินปันผลหรือให้ผลกำไรสูง เช่น ลงทุน 1,000 บาท ได้รับผลกำไร 3XX บาท เป็นต้น
ทั้งนี้ ฮั่วเซ่งเฮง ไม่มีการรับประกันผลตอบแทนใด ๆ ทั้งสิ้น

4. มิจฉาชีพมักหลอกให้นักลงทุนโอนเงินเข้าบัญชีส่วนบุคคล ซึ่งส่วนใหญ่เป็น “บัญชีม้า” และถูกซื้อมาจากคนที่รับเปิดบัญชี อันเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ทั้งนี้ ฮั่วเซ่งเฮง ไม่มีนโยบายให้ลูกค้าโอนเงินเข้าบัญชีส่วนบุคคล

5. ฮั่วเซ่งเฮงไม่มีการเชิญชวนให้นักลงทุนเปิดบัญชีผ่านช่องทางแชทออนไลน์

ข้อปฏิบัติ หากตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

1. ติดต่อธนาคารเจ้าของบัญชีผู้เสียหายทันที ผ่านศูนย์รับแจ้งเหตุ (Hotline) ของแต่ละธนาคาร (ดูภาพประกอบด้านล่าง) หรือที่สาขาของธนาคาร เพื่ออายัดบัญชีคนร้าย ซึ่งจะช่วยตัดตอนเส้นทางการเงิน และเพิ่มโอกาสในการอายัดเงิน ที่ถูกโอนไปให้คนร้าย โดยหลังจากที่ท่านแจ้งอายัดแล้ว ทางธนาคารจะออกเลข Bank Case ID ให้กับท่าน

เนื่องจากธนาคารสามารถอายัดบัญชีปลายทางได้ไม่เกิน 72 ชั่วโมง ดังนั้น ผู้เสียหายควรรีบแจ้งความ พร้อมทั้งแจ้งเลข Bank Case ID
ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อทำการอายัดบัญชีอย่างต่อเนื่อง

2. หลังจากติดต่อธนาคารเพื่ออายัดบัญชีและได้รับเลข Bank Case ID แล้ว ให้รีบดำเนินการแจ้งความผ่านช่องทางใดช่องทางหนึ่ง
ดังต่อไปนี้

• แจ้งความผ่านสายด่วน โทร. 1441 (ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง)

• แจ้งความออนไลน์ผ่าน https://thaipoliceonline.go.th/    
  (ระวังเพจปลอมของมิจฉาชีพที่มาในรูปแบบของการรับแจ้งความออนไลน์หรือทนายให้คำปรึกษา
  ซึ่งขณะนี้กำลังระบาดอยู่ในโซเชียลมีเดีย ทั้ง Facebook TikTok หรือ Line โปรดแจ้งความออนไลน์ผ่านลิงก์ที่อยู่ด้านบนนี้เท่านั้น)
• แจ้งความที่สถานีตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุ (สถานีตำรวจที่ผู้เสียหายอยู่ในขณะโอนเงิน)

3. เตรียมเอกสารและหลักฐาน เพื่อมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ในการดำเนินคดี

เอกสารที่ต้องเตรียม

• บัตรประชาชน

• หลักฐานแสดงความเสียหาย เช่น สลิปการโอนเงินเข้าบัญชีของมิจฉาชีพ เป็นต้น

• หลักฐานประกอบอื่น ๆ เช่น ข้อมูลเพจปลอม ภาพบันทึกหน้าจอ (screen capture) ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน หรือคอมพิวเตอร์ ซึ่งบันทึกบทสนทนาของผู้เสียหายกับมิจฉาชีพ และข้อมูลอื่น ๆ ที่ผู้เสียหายเห็นว่าเป็นประโยชน์ หรือสามารถใช้เป็นหลักฐานได้ (โปรดพิมพ์หลักฐานทั้งหมดลงบนกระดาษ เพื่อความสะดวกในการส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ)

4. เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจตามนัดหมาย เพื่อให้ข้อมูลพร้อมทั้งมอบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ โดยผู้เสียหายสามารถตรวจสอบความคืบหน้าของคดีได้ที่สถานีตำรวจที่รับแจ้งความ หรือโทรสายด่วน 1441 เพื่อติดต่อศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center : AOC) ซึ่งพร้อมให้บริการกว่า 100 คู่สาย รวมถึงการให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาภัยออนไลน์ แบบ one-stop service ตลอด 24 ชั่วโมง

5. เมื่อทำการอายัดบัญชีและแจ้งความเรียบร้อยแล้ว ท่านสามารถส่งรายละเอียดต่าง ๆ เช่น Bank Case ID หลักฐานการแจ้งความ และเบอร์ติดต่อมาให้กับเจ้าหน้าที่ของฮั่วเซ่งเฮง ผ่านทางอีเมล customerservice@huasengheng.com หรือติดต่อมาที่สายด่วน ฮั่วเซ่งเฮง โทร. 02 112 2289 ทางบริษัทฯ จะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการให้ความช่วยเหลือในด้านอื่น ๆ ทั้งนี้บริษัทฯ จะทำการติดต่อกลับภายใน 1-2 วันทำการ

ที่มา: ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ