จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวานนี้ (15 ต.ค.) ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเกาหลีเหนือส่งทหารช่วยรัสเซียรบในยูเครนตามที่มีรายงานข่าวหรือไม่ แต่หากรายงานดังกล่าวได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นความจริง ก็อาจเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึง “ความจนตรอก” ที่มากขึ้นของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย
นอกจากนี้ เคอร์บียังกล่าวกับนักข่าวอีกว่า หากรายงานดังกล่าวเป็นความจริงก็นับเป็น “เรื่องที่น่ากังวลสำหรับสหรัฐฯ” เนื่องจากความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะเป็นการบ่งชี้ถึงความสัมพันธ์ทางการทหารที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างรัสเซียกับเกาหลีเหนือ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวหาเกาหลีเหนือว่าเป็นผู้จัดหาเครื่องกระสุนและขีปนาวุธพิสัยไกลให้กับรัสเซีย นับตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นการรุกรานยูเครนในเดือนก.พ. 2565
สหรัฐฯ ยังเชื่อด้วยว่า รัสเซียอาจตอบแทนเกาหลีเหนือ ด้วยการช่วยเกาหลีเหนือยกระดับขีดความสามารถด้านนิวเคลียร์และขีปนาวุธพิสัยไกล
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน ระบุเมื่อวันอาทิตย์ (13 ต.ค.) ว่า ทางการยูเครนพบ “ความร่วมมือที่เพิ่มมากขึ้นระหว่างรัสเซียและเกาหลีเหนือ” พร้อมกล่าวโดยอ้างอิงข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองว่า “นี่ไม่ใช่แค่เรื่องการถ่ายโอนอาวุธอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นการถ่ายโอนกำลังพลจากเกาหลีเหนือไปยังกองกำลังทหารยึดครองดินแดน”
ด้านแหล่งข่าวจากหน่วยข่าวกรองของยูเครนเปิดเผยกับสำนักข่าวเกียวโดว่า มีทหารเกาหลีเหนือมากถึง 3,000 นาย ที่ถูกระดมพลให้ไปร่วมรบกับรัสเซีย
ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์